สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขไนจีเรียออกแถลงการณ์ ว่าได้รับบริจาควัคซีน “อิมวาเนกซ์” (Imvanex) หรือ “จีนนีโอส” (JYNNEOS) จำนวน 10,000 โด๊ส ของบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก จากเดนมาร์ก สำหรับโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ ซึ่งสามารถสร้างภูมิต้านทานต่อโรคฝีดาษลิง หรือ เอ็มพ็อกซ์ ได้ในระดับหนึ่ง ถือเป็นประเทศแรกในทวีปแอฟริกา ที่ได้รับวัคซีนป้องกัน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงระลอกใหม่


สำหรับวัคซีนที่ไนจีเรียได้รับนั้น เป็นความสนับสนุนจากสหรัฐ ปัจจุบัน หน่วยงานสาธารณสุขของไนจีเรียยืนยันผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง สะสมในปีนี้อย่างน้อย 40 คน แต่หลายฝ่ายประเมินว่า จำนวนผู้ป่วยในความเป็นจริงอาจมากกว่า 700 คน


อย่างไรก็ตาม สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงระลอกปัจจุบัน โดยมีการยืนยันผู้ป่วยสะสมมากกว่า 18,000 คน และเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 615 ราย นับตั้งแต่ต้นปีนี้

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง จากกลุ่มเชื้อไวรัสสายพันธุ์ “1 บี” หรือ “เคลด 1 บี” ที่มีการกลายพันธุ์จากกลุ่มเชื้อไวรัสสายพันธุ์ 1 หรือ “เคลด 1” และมีความรุนแรงกว่า ส่งผลให้องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเป็นครั้งที่สอง ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ต่อจากการประกาศระหว่างปี 2565-2566 ซึ่งตอนนั้นเป็นการแพร่ระบาดของกลุ่มเชื้อไวรัสสายพันธุ์ 2 หรือ “เคลด 2”


ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา (แอฟริกา ซีดีซี) รายงานสถานการณ์โรคฝีดาษลิง หรือ เอ็มพ็อกซ์ ในภูมิภาค ว่าจำนวนผู้ป่วยสะสม นับตั้งแต่ต้นปีนี้ จนถึงวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่อย่างน้อย 21,466 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 591 ราย ตอนนี้ มีอย่างน้อย 13 ประเทศในแอฟริกา ซึ่งยืนยันผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง ได้แก่ บุรุนดี แคเมอรูน สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (ซีเออาร์) ดีอาร์คองโก สาธารณรัฐคองโก ไอวอรีโคสต์ กาบอง ไลบีเรีย เคนยา ไนจีเรีย รวันดา แอฟริกาใต้ และยูกันดา.

เครดิตภาพ : AFP