กรณี กกต. สั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีใหม่ โดยไม่ประกาศรับรองนายชาญ พวงเพ็ชร์ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีการจัดเลี้ยงมหรสพ เพื่อจูงใจให้มีการเลือกตั้งนั้น
การจัดเลี้ยงดังกล่าวเป็นกรณีที่นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี หรือ “นายกเบี้ยว” จัดฉลองอุปสมบทให้กับนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ บุตรชาย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 67 มีลําไย ไหทองคำ ไปแสดงคอนเสิร์ต และนายทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางไปร่วมงาน
แม้นายชาญ ไม่ได้ไปร่วมงาน แต่เป็นที่ทราบกันดีในพื้นที่ว่าทีมของนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีเป็นทีมเดียวกับนายชาญ การที่นายทักษิณ ไปร่วมงานและพบปะพูดคุยกับผู้ร่วมงานซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมถึงคนเสื้อแดง เป็นการกระตุ้นคะแนนนิยมให้กับนายชาญ และเป็นน้ำหนักที่ทำให้ กกต.เชื่อว่าผลการเลือกตั้งที่นายชาญได้รับเลือกตั้งมาเป็นไปโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม
สำหรับ ชาญ เกิดวันที่ 2 ม.ค. พ.ศ. 2505 ที่ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็นบุตรของ นางแวว พวงเพ็ชร์ สำเร็จการการศึกษาปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยปทุมธานี
การทำงาน เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน และกำนันตำบลบ้านงิ้ว วิทยากรบรรยายพิเศษ ด้านการเมืองการปกครอง และการจัดการภัยพิบัติในท้องถิ่น ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มปทุมรักไทย และยังมีท้องถิ่นที่อยู่ทีมเดียวกัน ได้นำชื่อกลุ่มลงสมัครการเมือง อบต. ในจังหวัดปทุมธานี อดีตประธานสโมสรปทุมธานี เอฟซี ในปี พ.ศ. 2553
ชาญ เริ่มลงสนามการเมืองครั้งแรก ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เขตอำเภอสามโคก ในวันที่ 7 ก.พ. พ.ศ. 2543 และได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2547 เมื่อวันที่ 14 มี.ค. พ.ศ. 2547
ชาญ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ในสังกัดกลุ่มปทุมรักไทยที่ตนเองได้ก่อตั้งขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหาญสวัสดิ์ ซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงในจังหวัดปทุมธานี โดยในการเลือกตั้งครั้งแรกนั้น เขาชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 119,456 คะแนน ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2551 ชาญได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งเดิมอีกครั้ง และยังได้รับเลือกตั้งอีกสมัย
ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2555 ชาญได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งเดิมอีกครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจาก พรรคภูมิใจไทย พร้อมกับ สส.ของพรรคเพื่อไทยอย่าง สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล และตระกูลนพขำ แข่งกับ ว่าที่ร้อยตรี สุเมธ ฤทธาคนี อดีต สส.ปทุมธานี เขต 5 ซึ่งได้ลาออกมาเพื่อลงสนามการเลือกตั้งครั้งนี้โดยเฉพาะ แต่ชาญก็ได้รับชัยชนะอีกครั้ง โดยได้คะแนน 214,429 คะแนน ชนะสุเมธที่ได้คะแนน 110,974 คะแนน ครั้งนี้ได้ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 โดยชาญยืนยันว่า แม้จะเป็นคนของพรรคภูมิใจไทย แต่พร้อมร่วมงานเพื่อพัฒนา ช่วยเหลือชาวปทุมธานีกับทุกพรรค
ชาญ ได้กล่าวไว้ว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง เนื่องจากการช่วยเหลือในเหตุอุทกภัย พ.ศ. 2554 ทำให้ประชาชนไว้วางใจให้เขาดำรงตำแหน่งต่อ และนอกจากนี้ยังได้กล่าวอีกว่า มีอิทธิพลมืดพยายามทุกวิถีทางไม่ให้ตนชนะเลือกตั้ง ไม่ว่าจะการใส่ความตนให้เสียหายในช่วงการเลือกตั้ง หรือมีการจัดการประท้วง
ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2563 ชาญได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งเดิมอีกครั้ง แข่งกับ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
ในเดือน ธ.ค. พ.ศ. 2566 ชาญได้ร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ของ สุริยะ ภิรมย์พร้อม นายก อบต.ลาดหลุมแก้ว ซึ่งในงานมีแขกคนสำคัญอย่าง แพทองธาร ชินวัตร, ภูมิธรรม เวชยชัย, และอดีต สส. ของพรรคเพื่อไทย มาร่วมงานด้วยเช่นกัน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ชาญจะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งต่อไป ในเครือของพรรคเพื่อไทยแทนคำรณวิทย์
ภายหลังจากการลาออกของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ชาญประกาศตัวว่าพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้ง และในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ชาญได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเป็นคนแรก โดยได้หมายเลข 1 โดยมีสมาชิกพรรคและ สส.พรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมด้วย อาทิ สรวงศ์ เทียนทอง, ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์, สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล เป็นต้น
และเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ได้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ชาญ ได้คะแนนมาอันดับ 1 และได้รับการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี คนใหม่
กระทั่งล่าสุด กกต. สั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีใหม่ โดยไม่ประกาศรับรอง นายชาญ