เมื่อวันที่ 27 ส.ค. พ.ต.ต.สุชาติ ดุสดี สวป. สภ.บางละมุง ร.ต.ต.ธงธวัช พลละคร รอง สว.สส. พร้อมชุดสืบสวน ฝ่ายงานป้องกันและปราบปราม สภ.บางละมุง เข้าทำการควบคุมตัว นายวัชรพงศ์ เพียรงาม อายุ 31 ปี หรือฉายา “เก่ง สักลาย” ชาวจังหวัดชัยภูมิ ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์จำนวนหลายคันในพื้นที่ อ.บางละมุง โดยตำรวจเข้าทำการควบคุม ขณะที่เจ้าตัวกำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้านพัก ซอยหมู่บ้านพรเทพ 7 หมู่ 2 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องมาจากตำรวจ สภ.บางละมุง สืบทราบมาว่า นายวัชรพงศ์ หรือเก่ง สักลาย มีการนำรถจักรยานยนต์สภาพใหม่เอี่ยม ไปตระเวนขายในราคาเพียง 5,000 บาท จึงสงสัยว่ารถคันดังกล่าวน่าจะเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา จึงนำกำลังไปปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว ก่อนจะเข้าควบคุมตัว นายวัชรพงศ์ ได้โดยละม่อมขณะที่กำลังนอนหลับ พร้อมกับยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีราโน่ สีเทา ทะเบียน 1 ขง 3260 กทม. ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ทำการตรวจสอบหมายเลขตัวถังของรถ พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ถูกขโมยมาจากร้านข้าวต้มปลาชื่อดัง ริมถนนสุขุมวิทย่านพัทยาเหนือ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 67 ตำรวจจึงยึดรถจักรยานยนต์และคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.บางละมุง

จากการเค้นสอบนานหลายชั่วโมง นายวัชรพงศ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุขโมยรถคันดังกล่าวมาจริง โดยอาศัยช่วงที่เจ้าของรถลืมเสียบกุญแจคาไว้ เมื่อสบโอกาสก็เดินเข้าไปขึ้นคร่อมแล้วสตาร์ทเครื่องขี่หนีออกมา นอกจากนี้ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา วันที่ 26 ส.ค. เพิ่งจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยเจ้าของรถลืมเสียบกุญแจคาไว้ จึงก่อเหตุลักขโมยที่ร้านค้า หน้าสถานีโรงไฟฟ้า ในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อีกทั้งยอมรับว่า ในช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค. ไปก่อเหตุตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่เมืองพัทยา , ต.บางละมุง, ต.หนองปรือ และ ต.ห้วยใหญ่ ซึ่งจะเลือกลงมือก่อเหตุกับรถจักรยานยนต์ที่เจ้าของเผลอเสียบกุญแจคาไว้ที่รถ ซึ่งในช่วง 1-2 เดือน ลงมือก่อเหตุและได้รถจักรยานยนต์มาแล้วทั้งหมด 6 คัน

ผู้สื่อข่าวถาม นายวัชรพงศ์ ถึงสาเหตุจูงใจที่ต้องไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน จนพวกเขาเหล่านั้นได้รับความเดือดร้อน ซึ่งนายเก่ง ตอบว่า “ผมเคยเป็นช่างก่อสร้าง แต่ปัจจุบันตกงาน และผมกลัวเมียหนี เวลาที่ทะเลาะกัน เมียผมชอบเดินหนีออกจากบ้าน ผมรักเมียผมมาก จึงต้องไปขโมยรถเพื่อนำมาไว้ขี่ตามง้อเมีย ส่วนบางคันผมก็จะนำไปขายในราคาถูก เพื่อเอาไว้เลี้ยงดูเมีย และซื้อยาบ้าเสพW พร้อมทั้งขอโทษเจ้าของรถทุกคน และสัญญาว่าหากพ้นโทษออกมา จะไม่กลับไปก่อเหตุอีก

เบื้องต้นตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของ นายเก่ง เพราะจากพฤติกรรมพบว่า จะเดินเท้าตระเวนหาเหยื่อ โดยจะเลือกรถจักรยานยนต์ที่เจ้าของลืมเสียบกุญแจคาไว้ รวมถึงเจ้าของรถที่ชอบนำรีโมทกุญแจ ไว้ในกล่องเก็บของหน้ารถ จากนั้นจะทำลายกล้องวงจรปิด ในละแวกใกล้ๆ ด้วยการกด หรือ แหงนกล้องขึ้น เพื่อป้องกันการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยถือว่านายเก่ง ทำงานอย่างมืออาชีพ แต่อย่างไรก็ตาม ตำรวจสามารถตามยึดรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ถูกขโมยไป กลับมาได้จำนวน 6 คัน นอกจากนี้คุมตัวนายเก่ง ไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ปรากฏว่ามีปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งตำรวจจะได้ดำเนินการสอบสวนขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นายจิรายุทธ์ แจ้มเจริญ อายุ 38 ปี พนักงานเสิร์ฟของร้านข้าวต้มชื่อดังย่านพัทยาเหนือ กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าคงไม่ได้รถจักรยานยนต์คืนแล้ว และคงต้องผ่อนรถเปล่า ส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าเป็นความเผลอเลอของตนเองที่เสียบกุญแจคาไว้ โดยจอดรถจักรยานยนต์ไว้หน้าร้าน ไม่ถึง 5 นาที ก็ถูกคนร้ายขโมยไปอย่างง่ายดาย พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถติดตามจับกุมคนร้าย และได้รถจักรยานยนต์คืนในที่สุด.