เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบิดาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยในเวลาประมาณ 11.50 น. คณะของนายทักษิณ ได้เดินทางไปถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่ามกลางการเดินทางไปต้อนรับของกลุ่มนักการเมืองขั้วพรรคเพื่อไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และมีอดีตแกนนำคนเสื้อแดง ที่เคลื่อนไหวเดินทางไปต้อนรับจนแน่นสนามบิน

จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.เทิง เพื่อพบปะกับประชาชนที่ไปรอต้อนรับประมาณ 600 คน ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมจากลุ่มแม่น้ำอิง ที่ไหลสะสมมาจากแม่น้ำหงาว จากตับเต่า แม่น้ำลาวจากเชียงคำ และจากกว๊านพะเยา จ.พะเยา เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ถนน พื้นที่ทางการเกษตร ฯลฯ แม้ว่าในปัจจุบันระดับน้ำจะลดลง แต่บางพื้นที่น้ำยังท่วมขังอยู่

ต่อจากนั้นได้เดินทางไปดูสะพานสายตับเต่า-ภูชี้ฟ้า พื้นที่หมู่บ้านปางค่า หมู่ 8 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งถูกน้ำซัดจนสะพานขาดเสียหาย ไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ทำสะพานชั่วคราวหรือแบริ่งให้สัญจรไปมาได้ชั่วคราวแล้ว ก่อนที่จะเดินทางไปพบปะชาวบ้านที่ประสบภัยที่วัดตับเต่า ต.ตับเต่า อ.เทิง และภายในซอยเวียงเทิง 2 ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย โดยมีชาวบ้านนั่งเรือมารอพบ อดีตนายกฯ ทักษิณ ได้มอบถุงยังชีพและให้กำลังใจกลุ่มชาวบ้าน พร้อมกันนี้ได้อุ้มเด็กผู้ชายที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวหยอกล้อเพื่อให้มีกำลังใจ ท่ามกลางเสียงปรบมือและขอบคุณที่มาช่วยและเยี่ยมเยือนในยามลำบาก ก่อนเดินทางกลับ

โดย นายทักษิณ พูดผ่านไมโครโฟนไปถึงประชาชนที่มาต้อนรับว่า ทาง น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฝากให้มาเยี่ยมเยียนประชาชนด้วย และวันหลังจะไปเที่ยวหาเอง สำหรับตนเดินทางมาในครั้งนี้ ก็ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เป็นห่วงเป็นใย โดยเฉพาะพี่น้องบ้านเรา ตนไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี แต่พี่น้องก็ยังไม่ลืมตน ดังนั้นตนก็ต้องมาเยี่ยมเยือนตอบแทนบุญคุณพี่น้อง และดูทุกข์สุข สำหรับการเยียวยาผู้ประสบภัยจากน้ำท่วม ก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ ส่วนรัฐบาลก็ยังไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ ดังนั้นตนจึงมาเที่ยวหาพี่น้อง และขอบคุณที่มาต้อนรับด้วย

จากนั้นนายทักษิณ ได้เข้าพูดคุยกับชาวบ้านทำนองว่า ตนได้อายุมาก แก่ไปแล้วหรือไม่ เพราะตนมาเยือน อ.เทิง ครั้งล่าสุดคือปี 2543 เพื่อช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จึงไม่ได้เดินทางมานานกว่า 20 ปีแล้ว ปัจจุบันถนนหนทางดีขึ้นเดินทางไม่นานก็ถึงแล้ว รวมทั้งถามถึงสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมแจ้งว่ามีเรื่องใดก็ขอให้แจ้ง สส.คนปัจจุบันให้ได้รับทราบ ส่วนตนก็ขอให้กำลังใจ เพราะอีกไม่นานรัฐบาลก็จะลงไปช่วยเหลือต่อไป.