สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า นายเจสัน แคลร์ รมว.ศึกษาธิการออสเตรเลีย กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติอยู่ในประเทศราว 717,500 คน แต่ในปีการศึกษา 2568 รัฐบาลแคนเบอร์ราจำกัดจำนวนนักศึกษาต่างชาติ ระดับมหาวิทยาลัยและสายวิชาชีพ ไว้ที่สูงสุด 270,000 คน


ทั้งนี้ ออสเตรเลียวางแผนจัดสรรโควตานักศึกษาต่างชาติ สำหรับปีการศึกษา 2568 ออกเป็น นักศึกษาต่างชาติ 145,000 คน สำหรับมหาวิทยาลัย 30,000 คน สำหรับการศึกษาหลังมัธยมศึกษาตอนปลาย และ 95,000 คน สำหรับการศึกษาระดับอาชีวศึกษา


นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี ผู้นำออสเตรเลีย ยอมรับว่า การศึกษา “เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญ” ของประเทศ โดยการรับนักศึกษาต่างชาติ สร้างรายได้ให้แก่ออสเตรเลียมากถึง 42,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 969,977.50 ล้านบาท) เมื่อปี 2566

อย่างไรก็ตาม อัลบาเนซีมองว่า สถาบันการศึกษาในออสเตรเลียไม่ควรพึ่งพิงนักเรียนและนักศึกษาต่างชาติมากจนเกินไป เนื่องจากเรื่องนี้ ส่งผลต่อการควบคุมผู้อพยพของประเทศ และขยายไปยังเรื่องเศรษฐกิจด้วย

นอกจากนั้น การดำเนินการดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อแทนที่นโยบายปัจจุบัน ซึ่งเน้นไปที่การพิจารณาและให้ความสำคัญกับนักศึกษาซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ว่าจะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของวีซ่า ซึ่งแม้เป็นผลดีกับบรรดามหาวิทยาลัยชั้นนำของออสเตรเลีย แต่กระบวนการออกวีซ่าจะเป็นไปอย่างล่าข้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาพิจารณานาน

อนึ่ง โพลของเดอะ การ์เดียน ออสเตรเลีย ร่วมกับ เอสเซนเชียล ระบุว่า ประมาณ 69% ของกลุ่มตัวอย่าง กล่าวว่า การที่ราคาบ้านและที่อยู่อาศัยในออสเตรเลียแพงขึ้น เป็นผลจากผู้อพยพ ซึ่งรวมถึงนักศึกษาต่างชาติ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES