เมื่อวันที่ 27 ส.ค. เวลา 13.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ตอบรับเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการส่งเทียบเชิญ และพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้ประชุม สส. แต่ทุกอย่าง ตนรับทราบมาจากสื่อมวลชน และไม่รู้ว่าสื่อมวลชนนำข่าวมาจากไหน
เมื่อถามว่ามีบุคคลใกล้ชิดของนายเดชอิศม์ ปรากฏตัวที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ภายในทำเนียบรัฐบาล จนเกิดความเข้าใจว่าไปส่งเอกสารผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นายชัยชนะ กล่าวว่า ต้องไปถามเลขาธิการพรรค ซึ่งตนไม่ทราบว่าบุคคลที่อ้างเป็นคนของเลขาธิการพรรคจริงหรือไม่ เพราะไม่มีภาพมายืนยัน
ต่อข้อถามว่าได้พูดการคุยกันหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล นายชัยชนะ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีหลักชัดเจน หากร่วมรัฐบาล จะต้องมีการเทียบเชิญ จากนั้นจะต้องมีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และ สส. ของพรรค ดังนั้นสิ่งที่เป็นข่าวในขณะนี้ออกมาจากสื่อ ไม่มีบุคคลใดในพรรคออกมายืนยัน
เมื่อถามว่าจากที่นายเดชอิศม์ ระบุว่ามติพรรคมอบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ไปเจรจา แต่หัวหน้าพรรคบอกว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะได้ขอถอนมติดังกล่าวแล้ว ในข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายชัยชนะ กล่าวว่า ตามที่หัวหน้าพรรคชี้แจงถูกต้องแล้วว่า พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอ และมีการถอนมติออกไป
เมื่อถามว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล ทำให้มีข่าวว่า คนที่ไม่เห็นด้วยอย่างนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรค จะถูกขับออกจากพรรค นายชัยชนะ กล่าวว่า นายชวนเป็นผู้ใหญ่ในพรรค ที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือ ไม่มีใครขับท่าน ซึ่งนายชวนให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่ามีความเห็นส่วนตัวเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายหากมติพรรคเป็นอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ขณะนี้มาจากสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ กก.บห.พรรค ยังไม่เคยประชุมกัน เพราะยังไม่มีเทียบเชิญเป็นทางการ จึงต้องถามสื่อว่าได้ข่าวมาจากไหน คนที่มีรายชื่อก็ไม่มีใครยืนยัน
“พรรคประชาธิปัตย์แม้มี 25 เสียง ก็มีหลักและอุดมการณ์ของพรรคอย่างชัดเจน ทำตามระเบียบวิธีการขั้นตอนในการเข้าร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นไม่มีใครคนใดคนหนึ่งที่ตัดสินใจได้ การที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล แล้วต้องขับท่านชวนออกจากพรรค ขอยืนยันว่าไม่มีทาง และย้ำว่าประชาธิปัตย์ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว ต้องยอมรับว่าคนในพรรคไม่ได้พูด คนนอกพรรคพูด แล้วคือใคร เวลาหาเสียงเลือกตั้งเคยมาช่วยหรือไม่ ที่บอกเป็นแม่ยก ตอนหาเสียงอยู่ตรงไหน และไม่ทราบว่าแม่ยกเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ และทราบหรือเปล่าว่ากระบวนการกว่าจะได้ 25 ที่นั่ง สส. ทุกคนต้องลงพื้นที่หาเสียงเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน มันมีอยู่ 2 อย่าง คือพูดสนุกปากพูดให้แตกแยก กับให้คนรักกัน ก็แค่นั้น ทุกคนที่ยืนอยู่ในพรรคทั้งหมด ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ตัวผม และ สส. ให้ความเคารพท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านจุรินทร์ ให้ความเคารพทั้งหมด และเป็นหนึ่งเดียวกันแน่นอน ดังนั้นขอให้หยุดเสี้ยม หยุดทำร้ายพรรค คนที่ออกจากพรรค ด่าพรรค โจมตีพรรค ขอหยุดเถอะครับ” นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า วันนี้คำว่า รักพรรค ยืนยันอยู่เสมอว่า รักวันที่พรรคตกต่ำ มาช่วยกันฟื้นฟู รักไม่ใช่บอกว่ารักพรรคต้องเป็นนู้นเป็นนี่ ขอถามกลับว่าในวันที่คุณยืนอยู่ในพรรค ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับพรรคบ้าง ซึ่งหมายถึงทุกคนที่วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมถามกลับว่าพรรคทำอะไรผิด ไม่มีใครทำอะไรผิด เข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือ มีการประชุมพรรคไปแล้วหรือ คิดกันไปเอง หากบอกว่ามีใครแอบไปคุยท้าให้ไปเอาหลักฐานมา ว่าคุยที่ไหนเมื่อไหร่ อย่าพูดอะไรลอยๆ
นายชัยชันะ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั้น ในฐานะที่ตนอายุน้อยกว่า และนายทักษิณก็อายุเยอะกว่า เป็นตามมารยาทไทยในการไหว้ เพราะเด็กเราก็ยังไหว้ แล้วการไหว้ผู้ที่มีอายุมากกว่าผิดตรงไหน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่แฟร์ หลังจากที่มีผู้มาวิพากษ์วิจารณ์ตนว่านอบน้อม และเหตุใดต้องไปไหว้ ส่วนตัวมองว่าผู้ที่วิจารณ์ไม่ได้หวังดีต่อประเทศชาติ
เมื่อถามว่าต้องก้าวข้ามความขัดแย้งใช่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่ เราต้องไม่ยึดติดกับอดีต เห็นด้วยกับการก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้งในสิ่งที่ถูกต้อง