เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ว่า ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีใครมาพูดถึงเรื่องนี้ และตนได้บอกไปตรงๆ แล้วว่าไม่เห็นด้วย เพราะตนรณรงค์ว่าไม่เลือกพรรคเพื่อไทยที่ประกาศชัดเจนว่าจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกพรรคเขาก่อน ภาคใต้จึงได้รับผลกระทบด้วย แม้กระทั่งการซ่อมถนนก็ยังมีการแกล้งกัน ดังนั้น เมื่อเลือกตั้งแล้ว ตนจะกลับลำไปสนับสนุนพรรคที่ตัวเองบอกว่าอย่าเลือก ก็เท่ากับว่าตนทรยศประชาชน จึงขอยืนยันว่าไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ส่วนตัวแน่นอน แต่เป็นประโยชน์ของประชาชนที่ถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นเหตุผลชัดเจนที่ตนเองให้ไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งโหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามถึงข่าวที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะขับนายชวนออกจากพรรค นายชวน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ขับ สมาชิกที่ละเมิดมติพรรคฯ ก็จะถูกสอบวินัย แต่คนที่ละเมิดมติพรรคฯ ก็มีอยู่หลายคน ตั้งแต่เมื่อครั้งลงมติเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งลงมติเห็นชอบ ทั้งที่มติพรรคฯ ให้งดออกเสียง เขาขับพวกนี้มั้ง แต่ตนปฏิบัติตามมติพรรคฯ คือไม่รับ และขอแถลงชัดเจนว่าไม่เห็นชอบ และได้ให้เหตุผลไว้อย่างชัดเจน ที่ประชุมก็ไม่ได้ว่าอะไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาล อาจทำให้ สส.ภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ได้ นายชวน กล่าวว่า ตัวบุคคลที่มีความชัดเจนว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลคือตน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนคนอื่นนั้น ตนไม่แน่ใจ จึงพูดไม่ได้ว่าคนเหล่านั้นจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่การเข้าร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องปกติธรรมดา และต้องผ่านกระบวนการมติพรรค อีกทั้งแนวต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนมาตลอด ตั้งแต่ก่อนเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯ ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ สส.ภาคใต้เกือบทั้งหมด แม้กระทั่งไม่เป็นหัวหน้าพรรคฯ แล้ว ก็ยังมีส่วนช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ สส.ในภาคใต้จำนวนมาก จนกระทั่งช่วงหลัง สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป ซึ่งเราต้องเข้าใจธรรมชาติของการเมืองที่เปลี่ยนไป ปัจจัยที่ทำให้ชนะการเลือกตั้งคือเรื่องเงินและผลประโยชน์ จึงทำให้ทีท่าของผู้สมัคร สส.เปลี่ยนไป ขณะที่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ ชุดใหม่ที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะหัวหน้าพรรคได้ประกาศเอาไว้ว่าจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ตนเองจำได้

นายชวน กล่าวย้ำว่า สส.ของพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ไม่ควรจะสูญพันธุ์ และบางส่วนน่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะคนที่รับผิดชอบในการเลือกตั้งครั้งต่อไป คือนายเฉลิมชัยที่เคยเป็นเลขาธิการพรรคฯ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ย่อมรู้อยู่แล้วว่าคราวที่แล้ว บกพร่องอย่างไร ก็ต้องนำมาแก้ไข อย่างน้อยควรจะได้ สส.บัญชีรายชื่อเพิ่มมากกว่า 3 คน แต่กรณี สส.เขตเลือกตั้ง ตนไม่กล้าประเมิน เพราะสถานการณ์การเมืองและเขตการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป  แต่นโยบายพรรคฯ ยังพูดได้เต็มปาก เพราะทุกเรื่องทำอย่างมั่นคง ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีความยั่งยืน โดยไม่คิดเพื่อหาเสียงหรือแจกเงิน แต่มองความมั่นคงของสังคมมาประกอบ อาทิ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา รถไฟทางคู่ สนามบินสุวรรณภูมิ สิ่งที่ชัดที่สุดคือเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตที่ทำให้คนยังเชื่อมั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังต้องรักษาเอาไว้

เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคฯ จะต้องทำงานหนักขึ้นหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า พรรคการเมืองที่ไม่มีบ้านใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานหนักทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่มีครั้งไหนที่สบาย แต่เมื่อระบบการเมืองเปลี่ยน ระบบธุรกิจการเมืองเข้ามา มีการใช้เงินมากขึ้นก็จะยิ่งเหนื่อย ยิ่งหนัก เพราะหากไม่ใช้เงิน ก็จะยิ่งยากขึ้น คนที่เล่นการเมืองแบบไม่ใช้เงิน ก็จะแพ้ไปเรื่อยๆ จึงจำเป็นต้องรณรงค์ให้ประชาชนมองเห็นความสำคัญของการเมืองสุจริตที่จะทำให้การพัฒนาบ้านเมืองไปได้ด้วยดี  อย่างไรก็ตามยังไม่เคยมีกรรมการบริหารพรรคมาหารือถึงการดำเนินการใดๆ การประชุม สส. ก็ไม่เคยมีใครมารายงานว่าจะดำเนินการอะไรบ้าง