จากกรณี ชาวบ้านบ้านตากุย หมู่ 4 ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พบหม้อดินปริศนาลอยอยู่กลางลำห้วย ตรวจสอบพร้อมมีสายสิญจน์มัดรอบและมียันต์สีแดงปิดผนึก พร้อมกับมีอักขระอักษรเขมร โดยชาวบ้านพบลอยน้ำมาติดปะปนมากับวัชพืชติดอยู่บริเวณท้ายลำห้วย บ้านตากุย-บ้านตะแบก ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าลงไปดู หรือเก็บขึ้นมา เพราะกลัวว่าจะเป็นคุณไสย ของไม่ดี ที่มีคนทำแล้วนำมาทิ้ง แล้วจะเข้าตัว ต่อมาชาวบ้านได้พาแม่หมอชื่อดังเมืองสุรินทร์ “แม่ครูขวัญธิดาเทพ” มาทำพิธีและสื่อจิตว่าเป็นหม้อถ่วงวิญญาณจริงๆ ต่อมาได้ทุบทำลายและทำพิธีปลดปล่อยดวงวิญญาณให้ไปสู่สุคติ นั้น

ขนหัวลุก! ผวาหม้อดินมัดสายสิญจน์-ปิดผ้ายันต์ถ่วงน้ำ คาดสะกดวิญญาณ

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ทำพิธีเสร็จสิ้นทุกอย่าง ลูกศิษย์ที่เดินทางไปร่วมพิธีชื่อว่า คุณพิมพ์ อายุ 37 ปี ได้ติดต่อมาหาแม่ครูขวัญ บอกว่า อยู่ไม่ได้แล้ว ก่อนจะเดินทางมายังสำนักแม่ครูขวัญ อยู่ภายในหมู่บ้านกันจารย์ หมู่ 12 ต.เมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยเจ้าตัวเล่าว่า หลังจากที่ไปดูพิธีเมื่อวาน ก่อนจะรู้สึกแปลกๆ พอมาถึงบ้านตกดึกกำลังจะนอน ก็เห็นเงาผู้ชายดำสูงใหญ่ตามไปที่บ้าน แล้วเหยียบบริเวณหน้าอกจนหายใจไม่ออก พอตกเช้ามาจึงมาขอให้แม่ครูช่วยเหลือด่วน เพราะรู้สึกร้อนรนกระวนกระวายเหมือนเงาดำจะสิงร่าง

จากนั้นแม่ครู จึงได้ทำพิธีและเห็นว่าเงาที่ตามมานั้น มีคนทำของใส่ สั่งให้ผีตามมาจัดการ เพราะหลังจากที่ได้ไปทุบหม้อดินปลดปล่อยวิญญาณวันนั้น ทุกคนกลับมาบ้านก็รู้สึกแปลกเหมือนกันแทบทุกคน มีอาการร้อนรน แต่ที่คุณพิมพ์ โดนตามมาถึงที่บ้าน และโดนเหยียบหน้าอกอย่างกับจะเอาชีวิตนั้น เพราะมีอาการจิตไม่แข็งพอ แม่ครูจึงได้ทำพิธีไล่ผีพร้อมกับเอาน้ำมนต์พรมที่ตัว ปรากฏว่า คุณพิมพ์มีเสียงกรีดร้องเจ็บปวดด้วยความทรมานอย่างที่เห็นในคลิป แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ ไฟบ้านกลับดับทั้งบ้านในขณะทำพิธี คนที่อยู่ตรงนั้นถึงกับขนลุกซู่ทันที และแม่ครูก็ได้นำสายสิญจน์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ผ่านพิธีกรรมต่างๆ มามัดให้ ปรากฏว่าอาการดังกล่าวหายทันที

แม่ครูบอกว่าโดนของเขาแล้ว คนที่ทำหม้อนั่นแหละ สะกดวิญญาณให้ตามมาจัดการคนที่ไปเกี่ยวข้อง แต่มีคนเดียวที่จิตอ่อนไหว จึงโดนหนักกว่าคนอื่นๆ จึงได้นำสายสิญจน์ศักดิ์สิทธิ์ ผ่านพิธีกรรมมาหลายพิธีกรรม เช่น สะเดาะเคราะห์ เสริมดวง ขมากรรม นำมาผูกข้อมือให้คุณพิมพ์ ปรากฏว่าอาการทุกอย่างกลับหายเป็นปลิดทิ้ง ซึ่งใครที่โดนของไม่ดีมา แม่ครูก็ยินดีที่จะช่วย จากนั้น แม่ครูขวัญได้เดินทางไปที่ทางสามแพร่ง ซึ่งอยู่ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้าน (ตามความเชื่อแล้วต้องไปคนเดียวเท่านั้น คนดวงไม่แข็งพอไม่ควรไป) พร้อมของเซ่นไหว้ใส่บนกระทงสามเหลี่ยม มีอาหารคาวหวาน เหล้า-เบียร์ ใส่ไปเพื่อเซ่นไหว้เจ้าที่ ก่อนจะทำพิธีปัดเป่าไล่มนต์ดำ เชื่อว่าเจ้าของหม้อดินที่ทำพิธีถ่วงน้ำ เกิดอาการไม่พอใจที่ไปยุ่งและปลดปล่อยวิญญาณ

หลังจากเสร็จพิธีบริเวณทางสามแพร่ง แม่ครูจึงได้จัดทำพิธีกรรมชุดใหญ่ให้กับลูกศิษย์ที่ไปในวันนั้น ซึ่งมีอยู่หลายคน เพราะถ้าไม่ทำอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีตามมา เชื่อพิธีสะเดาะเคราะห์จะปัดเป่าขุนไสยออกจากตัว ส่วนที่ปั้นหุ่นมา 2 ตัว แล้วมัดติดกัน ในทางความเชื่อ เป็นการสะกดให้ของคุณไสยมนต์ดำที่ไม่ดี กลับไปอยู่กับเจ้าของคนที่ทำคืน อย่าได้มาสร้างเวรสร้างกรรมทำร้ายคนอื่นอีกเลย หลังจากพิธีเสร็จ ทุกคนบอกว่ารู้สึกโล่งสบาย.