เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์รถไฟคลองไผ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ทั้ง 3 ราย ว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 27 ส.ค. 67 ทีมกู้ภัย Hunan Sunshine จากประเทศจีน ซึ่งเป็นทีมกู้ภัยในพื้นที่ภัยพิบัติ พร้อมอุปกรณ์กู้ภัยเดินทางมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อร่วมปฏิบัติงานกับทีมกู้ภัยของ รฟท. ในการเร่งรัดให้ความช่วยเหลือคนงานที่ติดในอุโมงค์ โดยได้มีการร่วมประชุมสรุปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์เบื้องต้น และแผนดำเนินการกู้ภัยตามมาตรการทางเทคนิคด้านความปลอดภัย ตลอดจนการกำหนดแผนกู้ภัยร่วมกันในระยะต่อไป ตามนโยบายนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ที่สั่งการให้ รฟท. ประสานหน่วยงานด้านวิศวกรรมของภาครัฐ และเอกชน ที่มีความเชี่ยวชาญมาเสริมทีมกู้ภัย เพื่อเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือได้เร็วมากขึ้น ภายใต้มาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด
นายเอกรัช กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ช่วยเหลือล่าสุด หลังจากที่ได้ดำเนินการสอดท่ออากาศที่ปั๊มออกซิเจนเข้าไปภายใน 2 จุด และดันท่อช่วยชีวิตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.20 เมตร ความยาวท่อนละ 6 เมตร เข้าไปแล้ว 3 ท่อน (ตามแผนที่กำหนดไว้ จำนวน 5-6 ท่อน) แต่มีความจำเป็นต้องดึงท่อช่วยชีวิตออกเนื่องจากติดชั้นหิน จึงได้มีการปรับวิธีการให้ความช่วยเหลือเป็นการสร้างกล่องค้ำยัน เพื่อป้องกันดิน และหินที่ไหลลงมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม นายสุรพงษ์ได้มอบนโยบายให้ รฟท. ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พร้อมทั้งรายงานสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐาน แนวทาง มาตรการ ระเบียบ ข้อกำหนด คู่มือการก่อสร้าง เอกสารที่แบบในสัญญาก่อสร้าง และให้ตรวจสอบสัญญาจ้างในส่วนของความรับผิดชอบ การประกันภัย มาตรการเยียวยาให้กับผู้เสียหาย รวมทั้งสั่งการให้ผู้รับจ้าง และที่ปรึกษาควบคุมงานที่อยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างของ รฟท. ทั่วประเทศ ตรวจสอบความปลอดภัยของทุกโครงการอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก โดยมุ่งเน้นให้คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้ปฏิบัติงาน และให้ยึดถือการปฏิบัติงานตามคู่มือมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญ และหากเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก จะมีบทลงโทษขั้นสูงสุดต่อไป.