เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ นางสาววนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของหนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาติดต่อเอกสารเพื่อขอรับศพนายชาลี (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี หลังเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จากการได้รับสารพิษเมทานอลจากการดื่มเหล้าเถื่อน เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา

นางสาววนิดา เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่กินกับสามีมา 20 ปี มีลูกด้วยกันสองคน ปกติแล้วสามีจะดื่มเบียร์และสุราอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เลวร้าย ทั้งนี้ติดใจกับคนผลิตที่ใส่ส่วนผสมแล้วทำให้เป็นอันตรายกับคนกินเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 67 สามีได้กินเหล้าเถื่อนแต่ยังไม่มีอาการ จนกระทั่งวันช่วงเช้าวันที่ 22 ส.ค. 67 สามีได้มารับตัวเองที่ทำงาน พร้อมเล่าอาการให้ฟังว่า มีอาการเมามาก เวียนหัวหน้ามืด จนกระทั่งตอนเย็นตื่นมาอาการยังไม่ดีขึ้น มีอาการอาเจียน เดินไม่ไหว หายใจเร็ว สายตาพล่ามัวมองไม่เห็น ยังสื่อสารรู้เรื่อง เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอได้สอบถามว่ารับประทานอะไรมา เนื่องจากพบว่ามีเมทานอลในร่างกายสูง ทำให้เลือดเป็นกรด โดยยอมรับว่าที่ผ่านมา สามีมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน แต่ก็ไม่เคยมีอาการข้างเคียง จนกระทั่งล่าสุดมีอาการผิดปกติอย่างรุนแรงและถึงแก่ชีวิต

นางสาววนิดา กล่าวต่อว่า ฝากถึงผู้ผสมเหล้าเถื่อนว่าเลวมาก อยากเจอหน้า และอยากจะถามว่าชีวิตคนทั้งคน ไม่น่ามาทดลองอะไรแบบนี้ หากเห็นแก่เงิน ตายไปก็เอาอะไรไม่ได้ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนที่สามีเสียชีวิต ยังทำใจไม่ได้ รู้สึกเศร้าและไม่รู้จะพูดอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ขอจัดงานสามีให้เรียบร้อยก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตอีกราย สามีได้รู้จักกัน เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ละแวกเดียวกัน แต่ไม่ได้นั่งกินร่วมวงเดียวกัน ซึ่งไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตอีกราย ไปดื่มเหล้าเถื่อนจากพื้นที่ไหน เนื่องจากเสียชีวิตกันคนละโรงพยาบาล หลังจากนี้จะดำเนินการปรึกษากับทนายความ เพื่อรวบรวมผู้เสียหายในการฟ้องทางแพ่งกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป.