นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวง ดีอี ได้มอบหมายให้ ศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือ พีดีพีซี อีเกิล อาย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ พีดีพีซี ติดตาม เฝ้าระวัง การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิติผลการดำเนินการ ตั้งแต่ พ.ย. 66 ถึง 31 ก.ค. 67 ได้ทำการตรวจสอบ ติดตาม เฝ้าระวัง การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากเว็บไซต์ของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 31,561 หน่วย พบว่ามีกรณีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน จำนวน 6,086 เรื่อง และแจ้งหน่วยงานให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว 6,081 เรื่อง ยังมี 5 เรื่อง ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งจากสถิติดังกล่าวพบว่า ลดลงจาก 31.40% ในช่วงเดือน พ.ย. 66 เหลือ 1.62% ในช่วงเดือน ก.ค. 67

“ที่ผ่านมาหน่วยงานที่มีข้อมูลรั่วไหลมากที่สุดคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีข้อมูลรั่วไหลจำนวน 2,850 เรื่อง ขณะเดียวกันยังตรวจพบการขายข้อมูลจำนวน 139 เรื่อง ซึ่งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 11 ราย ซึ่งทางดีอี ได้สั่งการให้พีดีพีซีเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ และสร้างความตระหนักรู้ด้านกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (พีดีพีเอ) และตรวจสอบการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความมั่นใจและให้ผู้เกี่ยวข้องตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด”

นายประเสริฐ  กล่าวต่อว่า จากสถิติดังกล่าว จะเห็นได้ว่าการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลในภาพรวมลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงพบการรั่วไหลของข้อมูลจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการประชาชนอยู่ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบ และกำกับดูแลหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ปฏิบัติตามกฎหมายพีดีพีเอ อย่างเคร่งครัด และป้องกันไม่ให้หน่วยงานเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนโดยไม่เหมาะสมบนช่องทางสาธารณะ โดยหากตรวจพบหน่วยงานที่มีการกระทำผิดอย่างต่อเนื่องและมีผลกระทบร้ายแรง จำเป็นจะต้องมีการลงโทษ มีการปรับทางปกครองอย่างเด็ดขาดตามกฎหมายต่อไป