สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเควตตา ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า การโจมตีดังกล่าว ถือเป็นการโจมตีที่กว้างขวางที่สุดในรอบหลายปี โดยกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ก่อความไม่สงบมานานหลายทศวรรษ เพื่อแยกตัวแคว้นบาลูจิสถาน ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากร และเป็นที่ตั้งของโครงการสำคัญที่นำโดยจีน เช่น ท่าเรือเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงเหมืองทองคำและทองแดง

“การโจมตีเหล่านี้ เป็นแผนการที่คิดมาอย่างดี เพื่อสร้างความโกลาหลในปากีสถาน” นายโมห์ซิน นัควี รมว.มหาดไทยของปากีสถาน กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมกับเสริมว่า กองกำลังความมั่นคงของประเทศ สามารถสังหารผู้ก่อความไม่สงบได้ 12 ราย หลังเกิดการโจมตีในวันอาทิตย์ และวันจันทร์ที่ผ่านมา

ด้านกองทัพปากีสถานระบุว่า ทหารและตำรวจ 14 นาย รวมถึงผู้ก่อเหตุ 21 คน เสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งนี้ หลังการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งพุ่งเป้าไปที่รถบัสและรถบรรทุกบนทางหลวงสายหลัก แต่ยังไม่ที่แน่ชัดว่า ตัวเลขดังกล่าวนับรวมผู้เสียชีวิต 12 ราย ที่กระทรวงมหาดไทยปากีสถานยืนยันหรือไม่

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย จากเหตุโจมตีบนทางหลวง ซึ่งกลุ่มคนร้ายติดอาวุธได้ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนของผู้โดยสาร ก่อนที่จะยิงพวกเขาหลายคน และจุดไฟเผารถยนต์ อีกทั้งกลุ่มก่อความไม่สงบ ยังมุ่งเป้าโจมตีสถานีตำรวจ และทางรถไฟในเมืองเควตตา ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นบาลูจิสถานด้วย

อนึ่ง กองทัพปลดปล่อยบาลูจ (บีแอลเอ) กล่าวอ้างว่า เป็นผู้ก่อเหตุโจมตีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการปากีสถานแต่อย่างใด ขณะที่นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ผู้นำปากีสถาน ให้คำมั่นว่า กองกำลังความมั่นคงจะดำเนินการตอบโต้ และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ.

เครดิตภาพ : AFP