เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจกันล้นหลาม หลังจากมีสาวรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ร้องทุกข์กับเหตุการณ์สุดสลด ที่ต้องเสียบุคคลที่รักและเคารพ รวมถึงชีวิตของลูกชาย ที่ต้องเปลี่ยนไปแบบไม่มีวันหวนคืน

โดยเธอเล่าผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งระบุว่า “ไม่นึกไม่ฝันว่าจะโดนแบบนี้กับตัว ไม่เคยนึกจริง ๆ นะ 4 ปีกว่าแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ หลาย ๆ ท่านทราบเรื่องราวมาบ้างแล้ว วันนี้ขอลงเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้”

“19 ม.ค. 63 เกือบ ๆ 2 ทุ่ม ครอบครัวประสบอุบัติเหตุ สามีเป็นคนขับรถตู้ ขับเลนขวาสุด ช่องทางด่วน ถนนรัตนาธิเบศร์ นนทบุรี มีรถทัวร์คันหนึ่ง มาจากช่องซ้ายสุด จะกลับรถ พุ่งมาชนข้างซ้ายของรถตู้ของเรา”

“มีคนเจ็บหนัก 4 คน คุณพ่อสามี ตัวเรา ลูกชายคนเล็ก ลูกสาวคนโต คุณพ่อสามีรักษาตัวได้ไม่นาน ท่านก็เสียชีวิต ลูกชายก็ชีวิตเปลี่ยน ใช้ชีวิตปกติได้ไม่นาน มองเห็นพ่อแม่ พี่ ๆ ปู่ย่า ตายายได้ไม่นาน ยังจำหน้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ก็กลายเป็นคนพิการ เราก็ดำเนินคดีตามกฎหมายกับพวกเขา”

“สามีเป็นโจทก์ที่ 1 น้องสาวสามีเป็นโจทก์ที่ 2 เราคือโจทก์ที่ 3 ลูกสาวคือโจทก์ที่ 4 ลูกชายคือโจทก์ที่ 5 ส่วนจำเลย คนขับเป็น จำเลยที่ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นจำเลยที่ 2 ตัวภรรยา เป็นจำเลยที่ 3 (สามีเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด เลยไม่ถูกฟ้อง) บริษัทประกันเป็นจำเลยที่ 4”

“จำเลยที่ 1-3 ไม่เคยมาศาลเลย ย้ำว่าไม่มาเลย ให้ทนายเป็นคนดำเนินการทั้งหมด วันสืบพยาน ศาลแพ่งไกล่เกลี่ย ทนายเขาก็จัดการ ขอลดยอดหนี้ เราก็ลดให้นะ เหมือนเจ็บฟรี ศาลก็ทำสัญญายอมของโจทก์ที่ 1-4 ส่วนของลูกชายก็รอศาลท่านมีคำพิพากษา
ปรากฏว่า จำเลยก็ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่งวดแรก ไม่จ่าย เงียบหายไปเลย ปกติก็ไม่เคยติดต่อเราตั้งแต่ถูกฟ้องแล้ว จนเราโทรฯ ทวงถามก็ไม่จ่าย นี่คือครั้งแรกที่ไม่จ่าย”

“ทางเรากับสามีก็ทำการสืบทรัพย์ พบว่าหลังทำสัญญายอมแค่หนึ่งวัน คือวันรุ่งขึ้น สามีของจำเลยที่ 3 ที่ไม่ได้ถูกฟ้องเนี่ย โอนที่ดิน
ที่เป็นสินสมรสเนี่ย ให้คนอื่น คนอื่นนี่ก็คือ ลูกติดของสามีกับภรรยาเก่า จนเราฟ้องฐานโกงเจ้าหนี้ คราวนี้เราต้องไปฟ้องที่ศาลแขวงอุบลราชธานี”

“ศาลท่านก็ให้ไกล่เกลี่ยอีกครั้ง รอบนี้เราฟ้องภรรยาเป็นจำเลยที่ 1 ฟ้องสามีเป็นจำเลยที่ 2 ฟ้องลูกติดสามีเป็นจำเลยที่ 3 ทางจำเลยที่ 1 เขาเสนอขายรถทัวร์คันเกิดเหตุใช้หนี้เรา เราขอให้ทางจำเลยที่ 2 ช่วยจำเลยที่ 1 ขายรถด้วย ในฐานะที่เขาเคยเป็นสามีภรรยากัน หากขายรถไม่ได้ ให้ร่วมกันชดใช้เงินให้แก่เรา ทางจำเลยยินยอม เราก็ถอนฟ้องคดี”

“พอครบกำหนดตามที่ศาลท่านให้ไว้ปุ๊บ ผิดนัดชำระหนี้อีกแล้ว รอบสองแล้ว ไม่จ่าย เงียบหายอีกแล้ว เชื่อมั้ย สองคนนี้เขาหย่ากันก่อนศาลแพ่งจังหวัดนนทบุรี มีคำพิพากษาในส่วนของลูกชาย เพียงแค่ 1 เดือน คำพูดของคนครอบครัวนี้ เชื่อถือไม่ได้ พฤติกรรมก็เชื่อถือไม่ได้ ฟ้องศาลมาหลายรอบ หลายคดีแล้ว”

“ห้างยังทำธุรกิจตลอดตัว ภรรยายังลงข้อมูลใน facebook ตลอด ไปเที่ยวนู่น เที่ยวนี่ พาลูกทัวร์ไปนู่น ไปนี่ แต่งบดุลไม่ส่งนะจ๊ะ
เงินไปไหนน้อท้อแท้ ใจเขาใจเราเนาะ หัวอกคนเป็นแม่เหมือน น่าจะเข้าใจ น่าจะเห็นใจกันบ้าง มีลูก ใช้เงินมั้ย ใช้เงินขนาดไหน
ลูกชายก็วนเวียนเข้าออกโรงพยาบาล ของใช้อีกจิปาถะ ถังออกซิเจน เครื่องผลิตออกซิเจน แพมเพิสซื้อทุกเดือน แผ่นรองซับ
ทุกอย่างต้องใช้เงิน เงิน เงิน ลูกหนี้ลอยตัวเหนือปัญหา มันใช่เหรอ”

“ลูกหนี้จะอ้างว่า ส่งประกันรถทุกเดือน ทำไมต้องจ่ายเงินให้เราอีก ก็ได้จากประกันไปแล้ว คือต้องอธิบายคนแกล้งโง่ยังไงดี
ยังมีอีกเยอะกลโกงจากครอบครัวนี้ ยังมีให้ปวดหัวอีก นี่คือท้อแท้มากนะ เหนื่อยมากนะ ร้องไห้ เสียน้ำตามานับครั้งไม่ถ้วน
ลูกชายพิการตลอดชีวิต มันเศร้ามั้ย ตามองไม่เห็น ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องกายภาพ ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เขาจะใช้ชีวิตยังไง
บอกตามตรงว่า เคยมีความคิดไม่อยากอยู่แล้ว เพราะมันเหนื่อย”

“แต่มองลูกแล้ว ฉันจะตายยังไม่ได้ ลูกฉันยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าฉันตาย เขาจะเป็นยังไง แม่ต้องขอความเป็นธรรมให้ลูกก่อน
ถึงมันจะยาก แต่ก็ต้องทำ ตอนนี้พึ่งยาไปก่อน deanxit กับ lorsatan ค่ะ ดิฉันเป็นความดันโลหิตสูง ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุมา
มันทั้งเครียด วิตกกังวล กลัว ไม่ได้กระทบแค่เรานะ สามีเป็นโรคนอนไม่หลับ ลูกสาวเป็นสมาธิสั้น ต้องพาปรึกษาคุณหมอตลอด
รับยามาทานตลอด”

“อาการของลูกชายตอนนี้ กายภาพทุกวัน อาการดีขึ้นบ้าง พลิก คว่ำ ลุกขึ้นนั่งได้ แต่นั่งได้ไม่นาน เพราะหลังยังไม่แข็ง ยังใส่สายระบายน้ำในโพรงสมอง คงใส่ตลอดชีวิต ทานยากันชักทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ทานยาอยู่ 2 ตัว คือ Depakine กับ Keppra ต้องระวังเรื่องของการป่วย เพราะเด็กไม่ได้เดิน ไม่ได้ออกกำลัง ปอดจะมีปัญหา ปอดไม่แข็งแรง”

“ตอนนี้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หัวจะปวดที่ต้องเจอคนแบบนี้ เห้อสืบทรัพย์ยัยตัวเจ้าของที่เป็นภรรยา เชื่อมั้ย เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ไม่เจอทรัพย์สินใด ๆ เลย นอกจากรถทัวร์คันนี้ เงินมีพันกว่าบาทติดบัญชี แต่ลงรูป ลงคลิป ชีวิตดี๊ดี เงินไปไหนหมด โยกไปหมดแล้วมั้ง”

ภายหลังจากที่โพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป สังคมออนไลน์ต่างพากันแชร์ และวอนขอหน่วยงานเร่งตรวจสอบ อยากให้ครอบครัวดังกล่าวได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ ชาวเน็ตบางส่วนต่างคอมเมนต์ส่งกำลังใจ ขอให้เรื่องราวร้าย ๆ ผ่านไปได้อย่างดีอีกด้วย….

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @Naphatsawan Kat Klinnin