สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดนีเซีย ประกาศระเบียบการเลือกตั้งท้องถิ่นฉบับใหม่ ที่มีการปรับปรุงแก้ไขตามมติของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าอายุขั้นต่ำของผู้สมัครรับเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ต้องไม่ต่ำกว่า 30 ปี ในวันที่มีการยื่นเอกสารสมัครต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง และยืนยันว่า พรรคการเมืองขนาดเล็กสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งระดับภูมิภาคได้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการตัดสิทธิ นายแกซัง ปันกาเรป วัย 29 ปี บุตรคนสุดท้องของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ออกจากการลงสมัครรับเลือกตั้งระดับภูมิภาค เนื่องจากปันกาเรปกำลังจะมีอายุครบ 30 ปี ในเดือน ธ.ค. ที่จะถึง แต่การเลือกตั้งระดับภูมิภาคมีกำหนดเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. และเริ่มมีการรับสมัครในสัปดาห์นี้ ซึ่งเดิมทีมีรายงานว่า ปันกาเรปจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ในตำแหน่งรองผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง หนึ่งในจังหวัดขนาดใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ การที่จังหวัดขนาดใหญ่แทบทุกแห่งในอินโดนีเซีย อยู่ภายใต้การบริหารของนักการเมือง ซึ่งเป็นเครือข่ายของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนจำนวนมาก เกี่ยวกับการมี “ตระกูลการเมือง” เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตระกูลในประเทศ และการที่สภาผู้แทนราษฎรเตรียมออกกฎหมาย “เพื่อหักล้าง” มติของศาลรัฐธรรมนูญ จุดชนวนให้เกิดการประท้วงอย่างหนัก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนสภาต้องยอมถอยในที่สุด
อนึ่ง นายกีบราน ราคาบูมิง รากา บุตรคนโตของวิโดโด วัย 36 ปี ว่าที่รองประธานาธิบดีคนต่อไป “ได้รับอานิสงส์” จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเมื่อต้นปีนี้ ว่าบุคคลซึ่งเคยได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับภูมิภาคมาก่อน สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี แม้อายุยังไม่ถึงเกณฑ์อายุขั้นต่ำของผู้สมัครในทั้งสองตำแหน่งดังกล่าว นั่นคือ 40 ปี
อย่างไรก็ตาม ประธานศาลรัฐธรรมนูญในเวลานั้น ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยของผู้นำอินโดนีเซีย ลาออกในเวลาต่อมา ท่ามกลางเสียงประณามอย่างหนักจากหลายฝ่าย ว่าพิพากษาเอื้อประโยชน์ให้แก่เครือญาติ.
เครดิตภาพ : AFP
