เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้น จ.น่าน ว่า แม้ว่าน้ำท่วมจะลดลงจนแห้งแล้วก็ตาม แต่ยังทิ้งความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะโรงเรียนที่ยังคงต้องปิดการเรียนการสอนอยู่ ดินโคลนจำนวนมากที่ไหลมากับน้ำทับถมภายในโรงเรียน และข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์การเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ ที่เสียหายแทบทั้งหมด โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านสบหนอง และโรงเรียนชุมชนบ้านดอนตัน ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมหนัก ระดับน้ำสูงเกือบ 4 เมตร เกือบจะมิดหลังคาโรงเรียน ยังไม่สามารถเปิดเรียนการสอนได้ตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากสภาพโรงเรียนที่เสียหายทั้งหมด ครูและนักเรียน และผู้ปกครอง รวมทั้งชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ต่างระดมกำลังเข้าเก็บโคลน และนำข้าวของเครื่องใช้ที่เสียหายออกทิ้ง และฉีดน้ำล้างทำความสะอาด เพื่อให้พื้นที่บางส่วนกลับมาใช้งานได้
ส่วนที่โรงเรียนบ้านดอนศรีเสริมกสิกร เขตเทศบาลเมืองน่าน ถูกน้ำท่วมหนักเช่นกัน ทางโรงเรียนปิดการเรียนการสอนเพื่อล้างทำความสะอาด พร้อมประกาศขอความช่วยเหลือ ทีมจิตอาสาช่วยพัฒนาโรงเรียนจำนวนมาก เพื่อเก็บกวาดล้างโคลน
สำหรับรายชื่อโรงเรียนที่เปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเหตุอุทกภัยมีดังต่อไปนี้
ชื่อบัญชี เงินพัฒนาโรงเรียนบ้านดอน (ศรีเสริมกสิกร) เลขบัญชี 020136477716 ธนาคารออมสิน
ชื่อบัญชี รายได้สถานศึกษาโรงเรียนบ้านปอน เลขบัญชี 015562568162 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ชื่อบัญชี เงินบำรุงสถานศึกษาโรงเรียนบ้านสบหนอง เลขที่บัญชี 054640298425 ธนาคารออมสิน
ชื่อบัญชี เงินได้สถานศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านดอนตัน 054640534621 ธนาคารออมสิน
ชื่อบัญชี รายได้สถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าค้ำ เลขบัญชี 020241701620 ธนาคารออมสิน
โดยผู้มีจิตศรัทธา ศิษย์เก่าโรงเรียนต่างๆ สามารถร่วมด้วยช่วยกัน ร่วมบริจาคให้กับโรงเรียน เพื่อให้น้อง ๆ นักเรียนได้กลับมาเรียนได้ตามปกติได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ บริเวณตลาด ร้านค้า ในเขตเศรษฐกิจจำนวนมากที่ถูกน้ำท่วม ยังคงเก็บข้าวของที่เสียหายออกจากอาคารไม่หมด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ในการทำความสะอาด ฟื้นฟูสภาพเมืองเขตพื้นที่เศรษฐกิจให้กลับเหมือนเดิม
โดยนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ประเมินน้ำท่วมรอบนี้หนักสุดในรอบประวัติศาสตร์ที่เคยท่วมในจังหวัดน่าน เสียหายไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทาง นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้ระดมกำลังในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเร่งด่วน และเตรียมการในการฟื้นฟู.