เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีทางเพจได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ จากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 คน โรงเรียนดังแห่งหนึ่งใน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ว่าเด็กหญิงทั้งสองคน ถูกรุ่นพี่ 6 คนซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ล่อลวงไปทำร้ายร่างกายและร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอแบล็กเมล์ โดยเหตุเกิดที่ห้องพักนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ช่วงกลางวันแสกๆของวันศุกร์ที่ผ่านมา(23ส.ค.)
จากนั้นเดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ เพื่อดูบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องเรียนมัลติมีเดีย แต่ในปัจจุบันถูกใช้เป็นห้องพักชั่วคราว ของนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน โดยห้องดังกล่าวอยู่ติดกับ อาคารโรงอาหารของทางโรงเรียน ซึ่งในแต่ละวันมีผู้คนเดินผ่านไปมาพลุกพล่าน ภายในห้องพักมีที่นอน และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของกลุ่มนักกีฬาฟุตบอลวางอยู่ แต่ไม่พบกลุ่มนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนเนื่องจากเดินทางกลับบ้านช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ภายหลังดูสถานที่เรียบร้อยแล้ว นายเอกภพ ได้พูดคุยกับทาง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นเดินทางไป สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี จากนั้น นายเอกภพ ได้พาผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงทั้งสองคน เข้าไปพูดคุยกับ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ ถึงความกังวล ว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมของผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายทั้งสองคน โดยทางตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับเด็กผู้เสียหายทั้งสองคนอย่างแน่นอน
นายเอกภพ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิง ว่า ลูกสาว และเพื่อน ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมโรงเรียนดังกล่าว ถูกกลุ่มรุ่นพี่ในโรงเรียนล่อลวงไปทำร้ายร่างกายและร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราพักภายในโรงเรียน ซึ่งหลังทราบเรื่องจึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุวันนี้ทันที่ และ จากการพูดคุยสอบถามข้อมูลกับทางตำรวจทำให้ทราบว่า ส่วนของคดีทางผู้ปกครองผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว และได้สืบสวนสอบสวนจนรู้ตัวทั้ง 6 คนแล้ว อายุน้อยที่สุดคือ 11 ปี และมากสุดคือ 15 ปี โดยในวันจันทร์(26ส.ค.)ที่จะถึงนี้จะนำทั้ง 6 คน มาสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ตามขั้นตอนกฎหมาย
นายเอกภพ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ยังรู้สึกแปลกใจก็คือ เหตุใดทางโรงเรียนจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้ ทั้งที่ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงกลางวันแสกๆ มีนักเรียน เดินไปมาอยู่ทั่วไปหมด แต่กลับเกิดเหตุการณ์ ดังกล่าวขึ้นได้ อีกทั้งยังถ่ายคลิปส่งต่อกันภายในกลุ่มผู้ก่อเหตุ และเด็กนักเรียนด้วย จึงอยากฝากไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ ให้ตรวจสอบ ระบบความปลอดภัยภายในโรงเรียนแห่งนี้ และช่วยตรวจสอบให้ละเอียดด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นครั้งแรกหรือเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนหรือไม่ และขอฝากไปถึง ผู้ที่ส่งต่อหรือแชร์คลิปอาจต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
ด้านผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ทราบเรื่องจากญาติมาบอกเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงกลับไปสอบถามลูกสาวจนทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง หลังทราบเรื่องทางโรงเรียนได้มีการติดต่อให้เข้าไปเจรจาพูดคุยกันในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่ตนไม่รอได้ร้องเรียนไปยังเพจสายไหมต้องรอด พร้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพราะจนถึงขณะนี้ ลูกสาวตน ยังอยู่ในสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ ไม่พร้อมที่จะพูดคุยใดๆ และตนตั้งใจที่จะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกแย่กับทางโรงเรียน ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น หลังจากนี้จะให้ลูกสาวลาออกจากโรงเรียนและย้ายไปเรียนที่อื่น
ขณะโค้ชทีมฟุตบอลโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้ดูแลกลุ่มเด็กนักเรียนชายที่ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นหอพักชั่วคราว ของนักกีฬาฟุตบอลชายของโรงเรียน มีเด็กนักเรียนซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอาศัยอยู่รวมกัน 35 คน ในวันเกิดเหตุถึงจะเป็นวันศุกร์ แต่เป็นวันที่ทางโรงเรียนไม่มีการเรียนการสอนและจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เนื่องจากโรงเรียนขนาดเล็กมาขอใช้สถานที่ภายในโรงเรียนเพื่อจัดการแข่งขันกีฬาภายใน ทางคณะครูของโรงเรียนจึงได้ไปช่วยจัดการแข่งขันกีฬาภายในให้กับทางโรงเรียนที่มาขอใช้สถานที่ ในหอพักชั่วคราวจึงมีเพียงกลุ่ม เด็กนักเรียนชายซึ่งเป็น นักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอยู่รวมกันทั้งหมด
โค้ชทีมฟุตบอล ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการตรวจสอบภาพวีดีโอกล้องวงจรปิดบริเวณหอพักชั่วคราว ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ พบว่า เด็กนักเรียนหญิงทั้งสองคนเดินเข้ามาภายในหอพักเอง โดยไม่ได้ถูกบีบบังคับหรือถูกฉุดกระชากเข้ามาแต่อย่างใด อีกทั้งช่วงก่อเหตุ เด็กนักเรียนซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตบอล ของทางโรงเรียน และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงร้องหรือการต่อสู้ขัดขืนใดๆ จากทางฝ่ายนักเรียนหญิงทั้งสองคน จึงไม่รู้ว่ามีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขืนกระทำชำเรากันเกิดขึ้น เด็กบางคนเห็นเพียงว่ามีการใช้ผ้าห่มคลุมโปง คล้ายลักษณะเล่นกัน จึงไม่รู้ว่าเป็นการก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขืนกระทำชำเรา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากจะได้สอบปากคำและดำเนินคดีกับกลุ่มเด็กนักเรียนชายที่ก่อเหตุทั้ง 6 คนแล้ว ยังจะสอบสวนขยายผลว่ามีผู้อื่นร่วมลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันจะได้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่แชร์หรือส่งต่อคลิปวีดีโอ ที่กลุ่มเด็กนักเรียนชายผู้ก่อเหตุถ่ายไว้ด้วย
