สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่ากองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่ามีการส่งเครื่องบินขับไล่ประมาณ 100 ลำ โจมตีและทำลาย “ฐานยิงหลายพันแห่ง” ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเลบานอน โดยเครื่องยิงจรวดส่วนใหญ่มีการกำหนดพิกัดให้โจมตีภาคเหนือ และระบบบางส่วนมีการตั้งพิกัดให้โจมตีภาคกลางของอิสราเอล
ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงขีปนาวุธและอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ตอบโต้กลับมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งกองทัพอิสราเอลยืนยัน ว่าระบบป้องกันทางอากาศสามารถสกัดไว้ได้ “แทบทั้งหมด” แม้มีหลุดรอดออกมาบ้าง แต่จรวดเหล่านั้น “ก่อให้เกิดความเสียหายเล็กน้อยมาก”
ด้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ออกแถลงการณ์ ว่าปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลครั้งนี้ “สมบูรณ์และบรรลุเป้าหมายแล้ว” โดยยังไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ อิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในภาคใต้เลบานอน ปะทะกันอย่างดุเดือดไม่เว้นแต่ละวัน นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 โดยในเลบานอนมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 600 ราย ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกลุ่มฮิบอลเลาะห์ แต่มีพลเรือนรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 131 ราย ส่วนในอิสราเอลมีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย และทหารอย่างน้อย 23 นาย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนทวีความตึงเครียดขึ้นอีกขึ้น นับตั้งแต่อิสราเอลยอมรับ เป็นผู้สังหารนายฟูอัด ชูคร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกอาวุโสของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และอิสราเอลกล่าวว่า อยู่เบื้องหลังการโจมตีที่ราบสูงโกลัน เมื่อปลายเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เด็กและวัยรุ่น ซึ่งกำลังเล่นฟุตบอลอยู่ในบริเวณนั้น เสียชีวิตจากการโจมตีอย่างน้อย 12 ราย.
เครดิตภาพ : AFP