เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านตากุย หมู่ 4 ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่า พบหม้อดินปริศนาลอยอยู่กลางลำห้วย ตรวจสอบพร้อมมีสายสายสิญจน์มัดรอบและ มียันต์สีแดงปิดผนึก พร้อมกับมีอักขระอักษรเขมร โดยชาวบ้านพบลอยน้ำมาติดปะปนมากับวัชพืชติดอยู่บริเวณท้ายลำห้วย บ้านตากุย-บ้านตะแบก ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าลงไปดูหรือเก็บขึ้นมา เพราะกลัวว่าจะเป็นคุณไสย ของไม่ดี ที่มีคนทำแล้วนำมาทิ้งแล้วจะเข้าตัว

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดรับแจ้ง โดยจุดที่พบไหดังกล่าว ต้องขับรถเข้าไปตามเส้นทางบนลำห้วยประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านมักจะพากันไปหาปลาตอนกลางดึก พอไปถึงถึงกับหลอน เพราะไม่มีใครกล้าจับหม้อดินดังกล่าว และพบว่ามีชาวบ้านติดต่อไปหาแม่หมอ ชื่อดังเมืองสุรินทร์ ที่ชาวบ้านนับถือและเชื่อว่าเก่งเรื่องด้านปราบคุณไสย ชื่อ “แม่ครูขวัญธิดาเทพ” ให้มาช่วยทำพิธี

โดยหลังจากที่ แม่ครูขวัญธิดาเทพ มาถึงได้มีชาวบ้านลงไปนำไหขึ้นมา โดยแม่ครูได้สื่อจิตและสวดเป็นบทภาษาเขมร ก่อนใช้เคียวที่เป็นมรดกตกทอดที่ปู่ย่าตายายให้มา ซึ่งเป็นเคียวที่เคยใช้ตัดมาตราสังข์ผีก่อนที่จะเผา ถ้าใช้สิ่งของอื่นมาตัดไม่ได้ของจะย้อนเข้าตัวคนตัด เพราะเคียวอันนี้กันคุณไสยได้ หลังจากแกะสายสิญจน์ออกแล้วเปิดดูข้างในถึงกับช็อก พบเศษขี้เถ้า เศษผ้า และมีเทียน 9 ดอก ธูปอีก 16 ดอก และ เส้นผมจำนวนหนึ่ง โดยแม่ครูบอกว่า แบบนี้เรียกว่า “หม้อดินถ่วงวิญญาณ” ที่ผ่านพิธีมาแล้ว จากนั้นแม่ครูขวัญได้สวดส่งดวงวิญญาณและทุบหม้อดินแตก ก่อนจะจุดไฟเผาทิ้งทำลาย เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณที่โดนกักขังทรมานให้ไปสู่สุขติ

นายน้อย อายุ 63 ปี ชาวบ้านที่มาหาปลาและพบไหดังกล่าว เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มาดักปลาในตอนกลางดึก เวลาประมาณ 22.30 น. ซึ่งวันนั้นมีฝนตกปรอยๆ รวมกับมีลมด้วย ตนได้วางกับดักปลาอยู่ข้างๆห้วย อยู่ๆก็เห็นผู้หญิงวิ่งมาจากฝั่งต้นไม้ แล้วกระโดดลงไปในน้ำ ก่อนที่จะหายไปกับความมืด คิดว่าเป็นคนอยากจะกระโดดลงไปช่วย แต่ก็ว่ายน้ำไม่เก่ง ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรนึกว่าตาฝาดไป พอตอนเช้ามาจะมายกกับดักปลาที่วางไว้ ก็เหลือบไปเห็นหม้อดินดังกล่าว เห็นว่ามีสายสิญจน์มัดรอบพร้อมกับมียันต์ปิด จึงไม่กล้าลงไปเก็บ และ เรียกชาวบ้านมาดู ก็ไม่มีใครกล้าลงไปเก็บ เอาเรื่องไปบอกชาวบ้านจึงมีการจ้างแม่ครูมาทำพิธีดังกล่าว

คุณบัว อายุ 45 ปี ชาวบ้านที่อาศัยนอนทุ่งนาใกล้จุดพบ หม้อดิน เล่าว่า ย้อนไปเมื่อ 30 ปีที่แล้วตอนนั้นยังเด็ก บริเวณนี้เคยเป็นจุดอาถรรพณ์ สมัยก่อนบริเวณนี้จะเป็นถนนเกวียนซึ่งอยู่ลึกคล้ายกับลำคลอง ได้มีคนมารับซื้อวัว หรือ นายฮ้อย จูงนำวัวมาจากการรับซื้อจากชาวบ้านเพื่อกลับไป ด้วยความมืดคิดว่าคลองที่อยู่ด้านข้างเป็นถนนเกวียน เกิดอุบัติเหตุตกไปในลำคลองตายทั้งคนทั้งวัว ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้ๆกับที่พบไห หลังจากนั้นชาวบ้านก็มักจะพบเจอสิ่งลี้ลับมาโดยตลอด เช่น เห็นลิงตัวใหญ่กระโดนขึ้นๆลงๆต้นหว้านี้ และบางคนก็ได้ยินเสียงดนตรีไทย บางคนขับรถมาในเวลากลางคืน ก็โดนดึงรถแต่แปลกที่ต้นหว้าต้นนี้ทำไมยังอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้กลางน้ำ ไม่มีใครกล้าไปตัด บางคนแค่คิดก็เจ็บไข้ได้ป่วยจนต้องมาขอขมา

แม่ครูขวัญธิดาเทพ เล่าว่า หลังจากที่ชาวบ้านเชิญให้มาที่นี่ ตนจึงได้สื่อจิตและพบว่าหม้อดินดังกล่าวนั้น อาจจะเป็นหม้อดินที่หมอผีจับผีที่ดุร้าย หรือผีที่มาจากคนเล่นของ แล้วเสกลงหม้อถ่วงน้ำ เพื่อที่ไม่ให้ไปผุดไปเกิด และเปิดดูด้านในพบว่ามีเศษขี้เถ้า เสื้อผ้าและ เส้นผมจำนวนหนึ่ง พร้อมธูปเทียน สมัยโบราณคนที่กักขังวิญญาณมาถ่วงน้ำ มักจะนำเศษขี้เถ้าของคนตายมาใส่ เพื่อเป็นการสะกดไม่ให้ออกจากหม้อได้ ตนจึงจุดไฟเผาทำลายหม้อดินดังกล่าว และทุบตีให้แตก เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณ ให้ไปสู่สุขติ แต่ที่ตรงนี้แรงมากโดยเฉพาะต้นไม้ต้นนั้นที่อยู่ในน้ำ (ต้นหว้า) มีสิ่งลี้ลับอยู่กันเป็นครอบครัว

อย่างไรก็ตามเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม