เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในด้านการแพทย์และสาธารณสุข ว่า เรามีการประชุมเตรียมการไว้ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยให้เตรียมตั้งศูนย์เฝ้าระวัง เพราะช่วงเวลานี้เป็นฤดูฝน ทุกจังหวัดทั่วประเทศเฝ้าระวังมากน้อยตามสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะภาคเหนือ ทั้งเชียงราย น่าน พะเยา แพร่ แต่แม้จะยังไม่ถึงสุโขทัย ก็มีการเตรียมความพร้อม ตรวจดูพนังกั้นน้ำแต่ละแห่ง ดูเรื่องการไหลซึมแล้ว ส่วน รพ. ที่จมน้ำมี 1 แห่ง อยู่ที่ จ.น่าน แต่ยังสามารถให้บริการรักษkพยาบาลประชาชนได้

“สธ. ได้สั่งการว่า อะไรที่ไม่ถึงกับต้องลอยคอไปดูแลผู้คนแล้ว เราต้องเปิดบริการให้ได้ เป็นเรื่องของการเสริมถนนหนทาง การเดินเข้าไปดูแลรักษา ก็ดูให้เกิดความปลอดภัย ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่จมน้ำ เท่าที่ดูแล้วประมาณเกือบ 2 หมื่นหลังคาเรือน ที่เสียหายมากคือน่าน รองลงมาคือแพร่ เชียงราย พะเยา ตามลำดับ” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือ เรามีความพร้อม ปลัด สธ. สั่งการให้ตั้งหน่วยบริการทางการแพทย์เคลื่อนที่ หรือตั้งเป็นหน่วยเชิงรุกดูแลประชาชน เพราะว่าอาจมีโรคภัยไข้เจ็บตามมา เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โรคปัจจุบันทันด่วน เป็นต้น ก็ดูแลได้เลย หรือเอายาน้ำกัดเท้าไปดูแล เพราะน้ำไม่ค่อยสะอาด ก็มีผลกับโรคจากน้ำท่วม เราก็ดูแลให้ ก็ให้ความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ตรงไหนขาดเหลือก็ให้ประสานงานมา โดยเขตสุขภาพที่ 1 ผู้ตรวจราชการก็ไปกำกับอยู่” นายสมศักดิ์ กล่าว

ถามถึงผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขอดูตัวเลขอีกครั้ง แต่รวมทั้งประเทศประมาณ 8-9 ราย การเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากการจมน้ำ

เมื่อถามว่ามีข่าวกรณีผู้บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่มีการนำเบียร์ไปบริจาค ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดเหตุเมาแล้วตกน้ำจมน้ำเสียชีวิตได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าเราคิดมาก ก็เป็นอย่างที่เราคิดและถาม แต่ถ้าไม่คิด เผื่อเด็กไปดื่มหรือใครก็เป็นปัญหา คิดว่าอะไรควรไม่ควรกับจิตศรัทธาของผู้คนที่มีอยู่ก็ว่ากันไป เราอย่าไปตึงเครียดหรือหย่อนยานไป เดินสายกลาง อาจเป็นปัญหาหรือเกิดเป็นแนวทางในเรื่องของการทำประชาสัมพันธ์ก็ได้ เราอย่าพยายามไปพูดอะไรให้เกินเลย ต้องขอบคุณทุกคนที่มีใจมาบริจาค แต่ว่าอาจจะไม่ตรงวัตถุประสงค์นัก ก็ไม่เป็นอะไร

ถามย้ำว่าสถานการณ์น้ำท่วมในสุโขทัยน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ด้านทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของสุโขทัย จะมีแต่น้ำเหนือที่ไหลบ่าเข้ามา ขณะนี้เท่าที่ไปดูพนังกั้นน้ำ ก็มีส่วนที่พอรับได้อีกเล็กน้อย หากว่าน้ำในพื้นที่ฝนตก ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกท่วม แต่หากผ่อนปรนไปได้สัปดาห์หนึ่ง แล้วฝนค่อยตกที่สุโขทัย อาจจะพ้นวิกฤติครั้งนี้ได้

“สุโขทัยต้องรับน้ำหลากจากภาคเหนือ ไม่ใช่ปีละครั้ง บางปีเป็นสิบครั้ง ที่ต้องไปเตรียมตัวดู บางครั้งก็ดูเหมือนแห้งแล้งจนถึงตุลาคม แต่พอเปลี่ยนโยกย้ายผู้ว่าราชการคนใหม่มา ก็ตกใจต้องมาสู้กับน้ำท่วม เพราะปีนี้ผู้ว่าฯ สุโขทัย ก็จะเกษียณด้วย ก็อย่ามาท่วมตอนเดือนที่โยกย้ายพอดี ก็จะยุ่งมาก” นายสมศักดิ์ กล่าว

ถามถึงการดูแลผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นงานประจำที่มีการดูกันอยู่แล้ว หากมีเหตุการณ์ที่ต้องดูแลช่วยเหลือเพิ่มพิเศษก็เป็นเรื่องที่ดี จะได้ฝึกความพร้อมยกระดับให้ทันกับความปลี่ยนแปลง แต่เรื่องของโรคไต เบาหวานต่างๆ เรากำลังทำเรื่อง NCDs ให้ลดลง เป็นเป้าหมายที่เราจะเข้าสู่เส้นเป้าหมาย จะไปด้วยชัยชนะหรือทุลักทุเลก็ต้องดูกันไป

ถามว่าตั้งเป้าไว้หรือไม่ว่าจะต้องลดโรค NCDs ลงให้ได้เท่าไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กำลังบังคับปลัด สธ. ว่าจะให้ลดเท่าไร ปลัดบอกว่าไม่มีเครื่องมือเพิ่มให้ แต่ถ้าเพิ่มเครื่องมือให้ลดแน่นอน มั่นใจ แต่เครื่องมือต้องขอต้องทำ เพราะเวลามันคร่อมไปกับเรื่องของบประมาณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัด 4 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 1 คือ เชียงรายกระทบ 11 อำเภอ 33 ตำบล 264 หมู่บ้าน 5,615 ครัวเรือน มีประชาชนเสียชีวิต 3 ราย สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 4 แห่งเป็น รพ.สต. 3 แห่ง และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 1 แห่ง จังหวัดน่าน ได้รับผลกระทบ 11 อำเภอ 56 ตำบล 313 หมู่บ้าน 10,503 ครัวเรือน ประชาชนเสียชีวิต 3 ราย สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 3 แห่ง เป็นโรงพยาบาลน่านและ รพ.สต. 2 แห่ง ส่วนจังหวัดแพร่ ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ 23 ตำบล 102 หมู่บ้าน 383 ครัวเรือน ประชาชนเสียชีวิต 1 ราย สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 4 แห่ง เป็น รพ.สต. 3 แห่ง และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 1 แห่ง พะเยาได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ 40 ตำบล 313 หมู่บ้าน 3,500 ครัวเรือน มีประชาชนเสียชีวิต 1 ราย สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 4 แห่ง เป็นโรงพยาบาลพะเยา และ รพ.สต. 2 แห่ง ตอนนี้ยังสามารถเปิดให้บริการตามปกติ