เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า แม้ตนจะอยู่ในพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ตนไม่ทราบว่าตัวเองจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไร เพราะการจัด ครม. และมีคำว่าลงตัว แต่จริงๆ ไม่ลงตัวแต่แรกอยู่แล้ว จึงต้องปรับให้ลงตัว อาจมีการขยับให้ใครไปดำรงตำแหน่งอยู่หน่วยงานใดบ้าง ทำให้เราไม่รู้ เพราะเราไม่ใช่คนจัด ส่วนตัวยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร แต่ทางพรรคบอกให้ตนทำงานเต็มที่ในการดูแลประชาชน ซึ่งขณะนี้จะเน้นดูแลปัญหาน้ำท่วม กับโปรแกรมการทำงานที่วางไว้ ซึ่งจะทำเต็มที่ อย่าให้ขาดเหลือ แต่อะไรเสี่ยงขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เช่น การเปิดโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ใน กทม. ที่วางกำหนดการไว้ก็ต้องขยับ เพื่อไม่ให้ขัดกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามถึงรายชื่อ รมช.สาธารณสุข ที่มีกระแสว่าเปลี่ยนตัว จะกระทบกับนโยบายการทำงานหรือเตรียมมอบหมายงานอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราเดินไปตามนโยบายก็ไม่เป็นอะไร ขณะนี้เรากำลังจะทำเรื่องโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เพราะเรื่องอื่นๆ หมอทำไว้หมดแล้ว เราจะทำเรื่องของการลดค่าใช้จ่าย ลดงบประมาณ ถ้าทำได้เป็นกอบเป็นกำ ก็ถือเป็นชัยชนะ
เมื่อถามว่าหากนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นรมช.สาธารณสุข จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวก็คุ้นเคยกัน เมื่อสองเดือนที่แล้ว นายเดชอิศม์ก็มาเยี่ยมที่จ.สุโขทัย ถือเป็นคนโอภาปราศรัย นายเดชอิศม์จะมานี่หรือ ตนกลัวว่าเขาจะไม่อยากมา
เมื่อถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์จะจับมือเป็นรัฐบาล ถือเป็นนิมิตหมายใหม่ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เร็วไปที่จะไปคาดหวังให้มาเจอกันก่อน
เมื่อถามว่าจะแถลงนโยบายรัฐบาลได้เมื่อไหร่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ส่วนที่นายกฯ บอกว่า ครม.จะเริ่มทำงานได้ปลายเดือนก.ย.นี้ นานไปหรือไม่นั้น อาจเป็นข้อเท็จจริง แต่ถ้าเร็วกว่านั้น นายกฯไม่ได้บอกว่าจะเป็นปลายเดือน ก.ย. เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานใหม่หลักสูตรใหม่
เมื่อถามว่าการตั้งครม.ล่าช้าจะกระทบการช่วยเหลือน้ำท่วมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ช้า เพราะการตรวจประวัติ อย่างเช่นตน อยู่ใน ครม.มาหลายครั้ง มีการตรวจประวัติโดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่วันนี้ต้องเพิ่มสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าไปด้วย ที่ปรึกษากฎหมายจะต้องออกแบบการสอบถามเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการลงรายละเอียดมากขึ้น เพราะมีผลถึงขั้นถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักการเมือง
เมื่อถามว่าคนที่มีปัญหาควรถอนตัวหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ใครจะไปรู้ตัวเอง เพราะตัวเองมองตัวเองไม่ค่อยเห็นอยู่แล้ว ถ้าไม่มีกระจกเงา.
