สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ว่า คณะทำงานแห่งชาติเกี่ยวกับทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก ซึ่งเป็นชื่อที่ฟิลิปปินส์ใช้เรียกทะเลจีนใต้ ออกแถลงการณ์ว่า ในระหว่างที่เครื่องบินลาดตระเวนของสำนักงานประมงและทรัพยากรทางน้ำแห่งชาติ (บีเอฟเออาร์) กำลังลาดตระเวนใกล้กับแนวสันดอนสการ์โบโรห์ ในทะเลจีนใต้ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา มีเครื่องบินขับไล่ของจีนลำหนึ่งบินเข้ามาใกล้ และ “คุกคาม” ด้วยการปล่อยพลุแฟลร์เพื่อขัดขวางเส้นทางการบิน เครื่องบินของฟิลิปปินส์


นอกจากนั้น เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้น ระหว่างที่เครื่องบินของฟิลิปปินส์กำลังลาดตระเวนเหนือแนวปะการังซูบี เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมาด้วย และเหตุการณ์เกิดขึ้น ทั้งที่เครื่องบินของฟิลิปปินส์กำลังลอยลำอยู่เหนือทะเล ที่ถือเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ และทะเลอาณาเขต


ขณะที่กระทรวงกลาโหมจีนออกแถลงการณ์ ว่าเครื่องบินตรวจการณ์ของฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายละเมิดทะเลอาณาเขตของจีน เหนือแนวปะการังจู่ปี้ ซึ่งเป็นชื่อที่จีนใช้เรียกแนวปะการังซูบี เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลปักกิ่ง “ตอบโต้ตามความเหมาะสม” แต่ไม่มีการเอ่ยถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค. แต่อย่างใด


อนึ่ง ฟิลิปปินส์ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการว่าด้วยขอบเขตไหล่ทวีป (ซีแอลซีเอส) ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่ออ้างสิทธิเหนือไหล่ทวีปส่วนขยาย (อีเอสซี) ในทะเลจีนใต้ โดยอ้างอิงจากเนื้อหาตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (อันคลอส) ฉบับปี 2525.

เครดิตภาพ : AFP