เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์Artificial Intelligence (AI) หรือ เอไอ  ได้เข้ามามีบทบาทพลิกโฉมในทุกแวดวง ไม่เว้นแม้กระทั่งวงการสาธารณสุข

เนื่องจากปัจจุบันได้เริ่มมีการนำเอไอ มาประยุกต์ใช้ให้บริการทางการแพทย์ และมีโรงพยาบาลได้เริ่มลงทุนในเรื่องพัฒนาด้านเทคโนโลยี AI และ Machine Learning หรือ ML เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการในทุกมิติ

AI จะเข้ามามีบทบาทอย่างไรในวงการสาธารณสุข วันนี้ คอลัมน์ “ชีวิตติด TECH” มีข้อมูลจาก    OPEN-TEC ศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Tech Knowledge Sharing Platform) ภายใต้การดูแลของ TCC TECHNOLOGY GROUP  ที่ได้จัดสมันา หัวข้อ AI-Driven Innovation for Longevity ในงาน TMA Digital Dialogue 202 มาแบ่งปันกัน

ศักยภาพของ AI  หนุนอุตสาหกรรมการแพทย์

ในธุรกิจและอุตสาหกรรมการแพทย์มีการใช้งาน AI ร่วมกับ IoT กลุ่มเครื่องมือแพทย์ที่สนับสนุนการรักษามานานกว่า 20 ปีแล้ว  ทั้งในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนการรักษา การวิจัย และฝึกอบรมบุคลากร (Simulation / Scenario Training) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ทำให้เกิดปัจจัยที่ช่วยการเห็นภาพ (Visibility) ที่ชัดเจนมากขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจ เพิ่มความแม่นยำ และลดระยะเวลาในการวินิจฉัยของแพทย์

ภาพ pixabay.com

ซึ่งในระยะหลัง AI ได้ถูกนำมาใช้เพื่อรับมือกับความซับซ้อนของข้อมูลทางด้านพันธุกรรม โดยช่วยอ่านค่าผลทดสอบจากห้องปฏิบัติการ จนปัจจุบันนำมาสู่ “แผนการรักษาและการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล” (Personalized Medicine) ซึ่งช่วยส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น นอกเหนือจากการวิเคราะห์จากข้อมูลที่ติดตัวแต่กำเนิด ข้อมูลเชิงพฤติกรรมและการใช้ชีวิตของบุคคลนั้น ๆ เป็นองค์ประกอบ

ความท้าทายและการมีส่วนร่วมของ AI

AI ทางการแพทย์นั้น มีการใช้งานในรูปแบบของ Machine Learning  ตัวอย่างครื่องมือที่พัฒนาขึ้น ได้แก่ Healthcare API ที่ใช้ในการตรวจเบาหวานขึ้นจอประสาทตา สามารถอ่านผลเอ็กซเรย์เพื่อบ่งชี้ระดับอาการของโรคเพื่อวางแผนการรักษา ซึ่งมีการนำมาทดสอบและใช้งานแล้วกับผู้ป่วยหลายหมื่นรายในประเทศไทย สำหรับการพัฒนาในรูปแบบ Generative AI จะอยู่บนพื้นฐานของการนำข้อมูลจำนวนมากมาใช้งานบน Large Language Models (LLMs) เพื่อให้ส่งคำตอบที่เป็นคำอธิบาย หรือสรุปใจความจากเอกสารมากมายที่ป้อนข้อมูลให้ มากกว่าตอบเพียงว่าใช่หรือไม่ ตัวอย่างเช่น รายงานของแพทย์

ภาพ pixabay.com

ความสามารถของเทคโนโลยี มีความท้าทายในหลาย ๆ ด้านตามมา เช่น ความรับผิดชอบต่อข้อมูลส่วนบุคคล การด่วนสรุปและตัดสินใจด้วยข้อมูลจาก AI โดยขาดวิจารณญาณและการประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วนรอบด้าน รวมถึงความเสี่ยงจากการใช้งานในทางที่ผิดจริยธรรม ฯลฯ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้พัฒนาเทคโนโลยีและผู้ใช้งานจะต้องให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อหลักธรรมาภิบาลเพื่อป้องกันผลกระทบในภาพรวม

เมื่อมีการนำ AI ไปใช้งาน การตระหนักรู้ว่า AI จะเข้ามามีบทบาท “เป็นส่วนหนึ่งกับมนุษย์และอาชีพต่าง ๆ” ไม่ว่าแพทย์ บุคลากรด้านสาธารณสุข หรืออาชีพใด ๆ เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง โดยอาศัยการปรับมุมมองและวิธีคิดว่า AI จะไม่ได้เข้ามาแทนที่มนุษย์หรืออาชีพไหน แต่จะเข้ามาสนับสนุน และส่งเสริมความสามารถในการทำงานและการใช้ชีวิต (AI / Human-in-the-loop)

ส่งเสริมการเรียนรู้ เพิ่มทักษะผู้ใช้งาน

สิ่งจำเป็นต้อการใช้งาน AI คือ การผลิตบุคลากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยจะต้องเพิ่มทักษะการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์อย่างถูกวิธีแล้ว วิธีคิด (Mindset) ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การใช้ AI นั้นเกิดคุณประโยชน์ทั้งต่อตนเองและต่อองค์กร ต่อไปในอนาคตหลาย ๆ องค์กรอาจจะไม่ได้หาคนเก่งในเชิงวิชาการแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะหาคนที่ใช้ AI ได้เก่งและชำนาญด้วย เพราะจะนำมาซึ่งผลิตภาพ (Productivity) ทั้งในแง่มูลค่า ปริมาณ และเวลาที่มีประสิทธิภาพขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทักษะทางด้าน “Prompt Engineering” จะกลายเป็นทักษะที่สำคัญมาก เพื่อให้ชุดคำสั่งที่ป้อนเข้าสู่เครื่องมือ AI มีความชัดเจนตามโจทย์และวัตถุประสงค์ นำมาซึ่งคำตอบที่ต้องการครบถ้วน ได้คุณภาพ

ภาพ pixabay.com

ขณะเดียวกันในส่วนของสถาบันการศึกษาก็จำเป็นต้องเร่งปรับตัว ปรับโครงสร้างหลักสูตรทางวิชาการที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต เพื่อเตรียมความพร้อมของบุคลากรให้เหมาะสมและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี ตัวอย่างหนึ่งของสถาบันพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ คือ การนำ AI มาใช้ฝึกอบรมเพื่อเป็นผู้ช่วยสำหรับหัวข้อ เนื้อหาวิชาขั้นพื้นฐาน หรือกิจกรรมที่ต้องทำเป็นประจำ (Routine Task) เพื่อเพิ่มเวลาให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์กับเคสผู้ป่วยจริงมากขึ้น ยกระดับทักษะและการเรียนรู้โดยใช้เวลาที่สั้นลง

ใช้งาน AI อย่างไร ให้เกิดความยั่งยืน

เครื่องมือ AI ของเหล่าแพทย์และบุคลากร จะได้รับสิทธิในการทดสอบและประเมินว่าเครื่องมือ AI ประเภทไหนจากผู้พัฒนารายใดมีความเหมาะสม สามารถสนับสนุนการทำงานได้ตรงจุด กับขั้นตอนการปฏิบัติงาน และแผนการพัฒนา AI เพื่อธุรกิจที่มีแนวโน้มความต้องการใช้งานสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นสตาร์ทอัพระดับประเทศ ยังไม่มีผลงานมากนักในระดับสากล แต่มีจุดเด่น คือ ความเป็นผู้ประกอบการที่มีไอเดีย มีมุมมองที่แตกต่าง มีทีมนักพัฒนาที่มีความสามารถ และแพสชั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อต่อยอดธุรกิจ  ซึ่งเป็นส่วนที่ทดแทนกันได้ มีศักยภาพที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้าง Ecosystem ที่ยั่งยืนในระยะยาว

ภาพ pixabay.com

สุดท้ายแล้วภาพรวมของเทคโนโลยี AI นั้นมีศักยภาพสูงในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการแพทย์ทั้งในแง่การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก  เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยและการรักษามีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้งานในทางที่เหมาะสมและยั่งยืนยังคงต้องอาศัยการพัฒนาทักษะและการปรับเปลี่ยนวิธีคิดของบุคลากรทั้งผู้พัฒนาและผู้ใช้งานเป็นสำคัญ

รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับหลักธรรมาภิบาลเพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบ และสร้าง Ecosystem ที่เอื้อต่อการเติบโต จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาสู่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างยั่งยืน.

Cyber Daily