สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ว่า นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ แถลงระหว่างการลงพื้นที่ ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นหนึ่งในสวิงสเตตของการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ยุติแคมเปญหาเสียงทั้งหมดของตัวเอง ในฐานะผู้สมัครอิสระ และนับจากนี้จะสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐและแคนดิเดตของพรรครีพับลิกัน


ทั้งนี้ โรเบิร์ตซึ่งเคยเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ประณามการเลือกนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ให้เป็นตัวแทนพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยไม่ผ่านขั้นตอนการหยั่งเสียงขั้นต้นภายในพรรคก่อน และบอกเล่า “ความคับข้องใจ” และความขัดแย้งหลายเรื่อง ระหว่างตัวเองกับบรรดาแกนนำของพรรคเดโมแครต


แม้เคยมีการวิเคราะห์ว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งของโรเบิร์ต น่าจะช่วยดึงฐานเสียงของพรรคเดโมแครตออกมาได้บ้าง โดยเฉพาะในกลุ่มรัฐที่เป็นสวิงสเตต แต่จนถึงตอนนี้ โรเบิร์ต “ขาดคุณสมบัติ” ที่จะมีชื่อปรากฏบนบัตรเลือกตั้งประธานาธิบดี ในอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง จากทั้งหมด 50 รัฐของอเมริกา


ขณะที่กลุ่มทายาทตระกูลเคนเนดี ซึ่งแน่นอนว่า เป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต ออกแถลงการณ์ตำหนิโรเบิร์ต “ทรยศ” จุดยืนทางการเมืองของตระกูลเคนเนดี

อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น โรเบิร์ตไปปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยของทรัมป์ ที่รัฐแอริโซนาด้วย ซึ่งทรัมป์แสดงความขอบคุณความสนับสนุนทางการเมืองจากโรเบิร์ต ส่วนแฮร์ริสกล่าวว่า “ความสมานฉันท์” ภายในพรรคเดโมแครต เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ณ เวลานี้ และเธอยังคงเชื่อมั่นว่า จะสามารถเอาชนะทรัมป์ได้ ในการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย.


สำหรับค่าเฉลี่ยของผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกัน ณ วันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา เผยแพร่โดยเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ปรากฏว่า แฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำเหนือทรัมป์ 49% ต่อ 47%

ด้านความคิดเห็นของประชาชนในสวิงสเตต พบว่า แฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำเหนือทรัมป์ 49% ต่อ 47% เท่ากันที่รัฐวิสคอนซิน และรัฐมิชิแกน ทั้งคู่มีคะแนนนิยมเสมอกัน 48% ที่รัฐเพนซิลเวเนีย และ 47% ที่รัฐแอริโซนา และทรัมป์มีคะแนนนิยมนำเหนือแฮร์ริส 50% ต่อ 46% ที่รัฐจอร์เจีย.

เครดิตภาพ : AFP