เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่ตึก SC ASSET Public Company Limited ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ (ตึกชินวัตร 3) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังภาคเอกชนเข้าพบและเห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบางก่อน ว่า วันนี้ยังไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องนั้น แต่ภาคเอกชนที่มาในวันนี้ บอกว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ซึ่งมีทั้งสภาหอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย-จีน สภาอุตสาหกรรมไทย และสมาคมธนาคารไทย และวันนี้เนื่องจากตนยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากเอกชนดังกล่าว ซึ่งเป็นการแชร์ประสบการณ์และปัญหาที่ติดขัด และมีการทำความเข้าใจกัน ซึ่งในการพบกันครั้งนี้มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มาร่วมด้วย และได้คุยกันในรายละเอียดพอสมควร 

เมื่อถามว่าความชัดเจนของการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนจากภาครัฐบาล แต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดชัดในงาน Dinner Talk Vision for Thailand 2024 น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทางรัฐบาลจะให้ความชัดเจนอีกทีตอนที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ส่วนในเรื่องของนายทักษิณ ได้คุยและปรึกษากันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เป็นห่วงทั้งทางรัฐบาล และทุกคน รวมถึงนายทักษิณ คิดในทิศทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นจริงๆ ถ้าเรารอระบบไปเรื่อยๆ ทั้งกระบวนการ โดยไม่มีการปรับเลย ประชาชนก็จะเดือดร้อนนานขึ้น ฉะนั้นอะไรที่จะเป็นสิ่งแก้ปัญหาได้เร็วที่สุด นี่คือความตั้งใจ ส่วนกระบวนการและรายละเอียดต่างๆ จะสรุปในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

เมื่อถามต่อว่า พอจะพูดได้หรือไม่ ประชาชนทุกคนที่ตั้งความหวังไว้จะได้รับข่าวดี นายกฯ กล่าวว่า “ตัวดิฉันมั่นใจว่าเป็นข่าวดีคะ” 

เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณพูดชัด กลุ่มเปราะบางจะได้ก่อนเป็นเงินสด นายกฯ กล่าวทันทีว่า นายทักษิณ เป็นคนพูดชัดทุกเรื่อง ฉะนั้นนี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน

เมื่อถามอีกว่าถ้าประชาชนอยากได้ความชัดเจนจากนายกฯ ตัวจริง จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ว่า กลุ่มแรกที่จะได้รับเงินสดคือกลุ่มเปราะบาง น.ส.แพทองธาร ได้หันไปถาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ที่ยืนอยู่ด้านหลังว่าอยากช่วยตอบหรือไม่ หรือว่าเดี๋ยวรอตอบตามขั้นตอนดีกว่า ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร จะหันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ค่อนข้างจะเป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างนั้น แต่ความชัดเจนต้องรอวันแถลงนโยบาย อย่าเพิ่งถามมาก เดี๋ยวผิดกฎ เพราะเข้ามาบางทียังไม่ค่อยแน่ใจว่ากฎอันไหนที่สามารถพูดได้มากน้อยแค่ไหน แต่นักข่าวก็จะถามล่วงหน้า หากอะไรที่สามารถตอบได้ จะพยายามตอบเต็มที่ แต่ถ้าอะไรที่ผิดกฎขออนุญาตกั๊กไว้เล็กน้อย 

เมื่อถามอีกว่า ในเมื่อนายทักษิณ มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์และมองการไกล ดูจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ เพื่อเลี่ยงข้อครหาการครอบงำ มีแนวคิดจะให้มีตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเพื่อช่วยเหลืองานหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องระวังเรื่องกฎหมายหรือกฎต่างๆ อย่างมากมาย เพราะจริงๆ เชื่อเหลือเกินว่าวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ จะเป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติ แต่ยืนยันไม่ใช่การครอบงำ เพราะจริงๆ แล้ว นอกจากนายทักษิณแล้ว ยังมีคนเก่งๆ มากมายเช่นกัน แต่ทุกคนจะไม่มองว่าเป็นการครอบงำ เพราะคนท่านนั้นอาจจะไม่เคยอยู่ในการเมือง ฉะนั้นเลยไม่เป็นการครอบงำ แต่พอดีนายทักษิณ เคยเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นพ่อของนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นอาจจะมองเป็นการครอบงำ มันจะมีเส้นบางๆ

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ใช่เป็นการครอบงำแต่เป็นการครอบครอง เรียกว่าเป็นการครอบครองแต่ไม่ได้ครอบงำได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ตอนที่ท่านพูดใช่หรือไม่ เป็นการแซวกันเล่น เพราะจริงๆ ในบ้านก็สนิทกันอยู่แล้ว ฉะนั้นเป็นสิ่งที่พูดเล่น ไม่มีการครอบงำแน่นอน เพราะตัวดิฉันเองก็มีความคิดเป็นของตัวเอง และค่อนข้างเป็นคนชัดเจนพอสมควร.