เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ บุ๋ม ปนัดดา เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 กรณีถูกตัดต่อรูปไปโปรโมตเว็บไซต์พนันออนไลน์

บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ก่อนหน้าตนได้ไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง จากเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา เว็บพนันออนไลน์ที่เคยแจ้งไปก่อนหน้านั้นยังไม่หายไป กลับยังตัดต่อคลิปวิดีโอที่ตนให้สัมภาษณ์หน้า สน.ห้วยขวาง ว่า ตนซื้อรถคันใหม่ให้พ่อ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการเล่นเว็บพนันออนไลน์ เป็นการตัดต่อให้ตนพูดเหมือนเป็นการชักชวนให้คนมาหลงเชื่อกว่าเดิม ซ้ำยังมีการสร้างเพจเฟซบุ๊กเลียนแบบเพจ ”NineEntertain” และนำคลิปดังกล่าวมาลงในเพจแล้วยิงแอดโฆษณาให้ประชาชนเข้ามาดูเป็นจำนวนมาก ช่วงแรกตนยังไม่สนใจเท่าไหร่ แต่เนื่องจากมีคนเข้าไปดูเป็นจำนวนมากจนมีคนเข้ามาถามในเพจ ตนจึงเอะใจและรู้สึกว่าเว็บพนันเหล่านี้เริ่มที่จะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความในวันนี้

บุ๋ม ปนัดดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังถูกตัดต่อภาพและคลิปที่ขายของไปโปรโมตผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยี่ห้อหนึ่งซึ่งตนไม่เคยไปเป็นพรีเซ็นเตอร์มาก่อน และมีการนำไปลงใน TikTok เกรงว่าจะสร้างความเสียหายให้ตนด้วย เนื่องจากตนยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยี่ห้ออื่นอยู่

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณคุณบุ๋มด้วย เนื่องจากมีประชาชนหลายคนได้ติดต่อมาว่าคุณบุ๋ม ปนัดดา โปรโมตเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคุณบุ๋มได้มีการเข้าไปแจ้งความกับทางนครบาลไว้เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้ บก.สอท.1 จะเริ่มดำเนินการรีพอร์ตในส่วนเกี่ยวข้องกับเพจเฟซบุ๊กต่างๆ และจะมีการประสานไปยังตำรวจนครบาลโรงพักที่ได้มีการแจ้งความไปแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวต่อว่า การตัดต่อภาพลงเฟซบุ๊กมีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสองเเสนบาท

ในส่วนที่ถูกตัดต่อไปโปรโมตผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลง TikTok จะมีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ