บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 15 ต.ค.64 เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ โดยช่วงเช้าตลาดปรับขึ้นจากความคืบหน้าในการเปิดประเทศ หลัง ศบค.เริ่มผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จากนั้นเริ่มทยอยขายทำกำไรในช่วงบ่ายโดยเฉพาะกลุ่มหุ้นเปิดเมือง แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นการขายเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะการเปิดประเทศยังมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกมาก ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,638.34 จุด ลดลง 2.63 จุด หรือ 0.16% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 84,751.66 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 554.45จุด ลดลง 4.81 จุด หรือ 0.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,400.42 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารไตรมาส 4 ปีนี้จะทำระดับต่ำสุดของปี เนื่องจากได้รับผลจากการแพร่ระบาดโควิด และ ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลต่อความสามารถการชำระหนี้ของลูกค้า ประกอบกับเป็นไตรมาสที่ธนาคารจะมีการบันทึกค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน โบนัส การตลาด ไอที โดยเฉลี่ยจะสูงถึง 10,000 ล้านบาท ปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะถัดไป คือ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการปรับลดคิวอีของสหรัฐ ที่จะมีผลต่อการลงทุน
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 142.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2.บ้านปู ปิดที่ 13.10 บาท ลดลง -0.30 บาท
3.ยู ปิดที่ 1.82 บาท ลดลง -0.13 บาท
4.ปตท. ปิดที่ 39.25 บาท ลดลง -0.25 บาท
5.ไออาร์พีซี ปิดที่ 4.64 บาท ลดลง -0.04 บาท