สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ว่านางกมลา แฮร์ริส แถลงต่อที่ประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต ที่เมืองชิคาโก ในรัฐอิลลินอยส์ เมื่อวันพฤหัสบดี รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ ในฐานะตัวแทนพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในวันที่ 5 พ.ย. นี้ กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐ และแคนดิเดตของพรรครีพับลิกัน
แฮร์ริสกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ “คือโอกาสที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันก้าวข้ามผ่านความแตกแยก” และก้าวไปข้างหน้าร่วมกันในฐานะชาวอเมริกัน “ที่ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย” โดยยืนยันว่า เธอพร้อมเป็นประธานาธิบดี “ของชาวอเมริกันทุกคน” เพื่อสร้างความสามัคคีและอนาคตที่สดใสให้แก่บ้านเมือง
ทั้งนี้ แฮร์ริสกล่าวถึงทรัมป์ต่อไปอีกว่า หากอีกฝ่ายชนะการเลือกตั้ง และกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง “สหรัฐมีแต่จะเดินถอยหลัง” และโจมตีพิมพ์เขียวการบริหารประเทศของทรัมป์ในชื่อ “โปรเจกต์ 2025” ว่ามีแนวคิด “ขวาจัด” และเป็นนโยบายอนุรักษนิยม “สุดโต่งเกินไป” ที่รวมถึงการขยายเพดานหนี้ และ “การแทรกแซง” การปฏิบัติหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
เกี่ยวกับสถานการณ์สงครามในฉนวนกาซา ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566 แฮร์ริสกล่าวว่า หากชนะการเลือกตั้ง เธอจะเร่งผลักดันให้การเจรจา “บรรลุผล” เธอยืนยันว่า สหรัฐสนับสนุน “สิทธิในการป้องกันตัวเอง” ของอิสราเอล แต่จำนวนผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซานั้น “มากเกินไป”
นอกจากนี้ แฮร์ริสยืนยันจุดยืน ในการสนับสนุนยูเครน และตำหนิทรัมป์ที่ “ชื่นชมเผด็จการ” คือนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม สงครามในฉนวนกาซาซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 40,000 ราย เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ทำให้หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์พรรคเดโมแครตอย่างหนัก แม้แต่ท่าทีของสมาชิกพรรคยังแบ่งเป็นสองฝ่าย และตลอดระยะเวลาของการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตครั้งนี้ มีการเดินขบวนประท้วงต่อต้านสงครามบริเวณสถานที่จัดการประชุมทุกวัน.
เครดิตภาพ : AFP