เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่พารอกอน ฮอล์ล นายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ในงาน ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่รู้ปัญหาตัวเองหมด แต่ไม่ยอมแก้ปัญหา เรารู้ปัญหาแล้วต้องแก้ไขให้ได้ คณะรัฐมนตรีต้องเตรียมตัวไว้ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนใหม่ต้องหาเจ้าภาพในแต่ละปัญหา เพราะบอกว่าถ้าไม่มีเจ้าภาพใครจะแก้ ดังนั้นทุกปัญหาต้องมีเจ้าภาพ เรื่องแรกคือการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจให้เดินต่อให้ได้ เรื่องนี้ รมว.คลังคงต้องคุยกับสมาคมธนาคาร และบรรดานักซื้อหนี้ทั้งหลายว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร

อีกเรื่องคือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เท่าที่ทราบ เรื่องนี้มีคนค้านเยอะ เพราะบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ จริงๆแล้วดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการยิงนกสามตัวด้วยกระสุนนัดเดียว อันแรกคือกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้ระบบ บล็อกเชน ให้กระตุ้นเศรษกิจได้แม่นยำฉุ่มฉ่ำทั้งประเทศ แล้วคนไทยจะเข้าใจเทคโนโลยี และให้คนเข้าไปใช้ทุกบริการของภาครัฐ อีกหน่อยรัฐอาจออกบอนขายประชาชนรายย่อย นี่คือสิ่งที่เราหวังว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นประโยชต์กับประเทศมากกว่ากระตุ้นเศรษกิจ

แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้ ทางคณะกรรมการเล่าให้ฟัง ว่าเมื่อมีการตั้งงบปี 67 เพิ่มเติม 1.2 แสนกว่าล้าน บวกกับงบกลาง 20,000 กว่าล้าน เป็น 1.45 แสนล้าน ใช้ใน ก.ย. 67 จะแจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และคนพิการ 1 ล้านคน รวม 14.5 ล้านคน จะให้คนละ 10,000 ทันที ในเดือน ก.ย. เป็นการกระตุ้นเศรษกิจเบื้องต้นทันที เมื่อเดือนต.ค.งบใหม่ออก จะคัดกรองคนที่ลงทะเบียนไว้ 30 ล้านคนว่าใครได้ไปแล้วบ้าง ใครเข้าเกณฑ์บ้าง แล้วจ่ายที่เหลือหากระบบเสร็จก็จะจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษกิจที่แม่นยำ เพราะการใช้เงินสดไม่แม่นยำ