ความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม.แพทองธาร 1 พรรคร่วมที่ยืนยันรายชื่อเดิมก็ส่งชื่อให้ หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ แล้ว แต่ยังมีปัญหาในส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีการแยกส่งสองโผ คือโผของกลุ่ม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ที่ยืนยันชื่อรัฐมนตรี 4 คนตามเดิมในสมัยรัฐบาลเศรษฐา และกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ยืนยันชื่อรัฐมนตรีคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ แต่หากมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ก็มีนายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัสให้เลือก, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส “ใจถึง” ขนาดยอมยกเก้าอี้ 1 ว่าการ 1 ช่วยว่าการให้พรรคประชาธิปัตย์ ..โดยเป็นที่มองกันว่า เพื่อสู้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ต่อมา ในพรรค พปชร.เกิดกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร ถอดใจจะลาออกจากพรรค หลังจากรายชื่อรัฐมนตรีที่ พล.อ.ประวิตรส่ง อาจไม่ได้รับการพิจารณา และจะให้ ร.อ.ธรรมนัสเข้ามาบริหารพรรคเอง เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พล.อ.ประวิตรทางโทรศัพท์ เจ้าตัวพูดแค่ “ไม่ออก ออกทำไม” แล้ววางสาย ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ปฏิเสธการตอบคำถามถึงท่าทีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อดำเนินการขอมติขับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ออกจากพรรคหรือไม่ โดยตอบเพียงว่า “การเมืองอย่าไปพูดเลย จบแล้ว ขออย่าไปยุ่งอะไรกับพรรค ไม่ได้ยุ่งอะไรกับพรรคแล้ว”
ส่วนนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล ต้องผ่านที่ประชุมกรรมการบริหารและ สส.พรรค ให้อนุมัติการเข้าร่วมรัฐบาลและเงื่อนไข พร้อมยืนยันว่า ตัวเองคุณสมบัติครบถ้วน หากเข้าร่วมรัฐบาลไม่ถือว่า เสียอุดมการณ์ เพราะถึงเวลาต้องรีเซตประเทศไทย ให้มองที่เรื่องการช่วยกันเพื่อประเทศชาติและประชาชน “ไม่ใช่รุ่นปู่ทะเลาะกัน รุ่นหลานต้องทะเลาะด้วย”
นายกชายยืนยันด้วยว่า ไม่ห่วงจะกระทบศรัทธาต่อพรรคและเสียฐานเสียง ถ้าเราสร้างผลงานให้โดดเด่นระดับประเทศก็สามารถกู้ศรัทธาได้ และยืนยันว่า คนสงขลาบ้านตนเองเชียร์ทุกวันว่ามีโอกาสต้องร่วมรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหา และ สส.เกือบทุกเขตก็พูดอย่างนั้น ครั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจอยากให้มีบางภาคส่วนมาเสริมทำงาน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้เข้าไปประชุมที่ตึกชินวัตร 3 เพื่อรับมอบงานต่อจากนายเศรษฐา โอกาสนี้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า “รายชื่อรัฐมนตรีทุกพรรคส่งมาแล้ว มีเกินจำนวนเพราะต้องมีการเผื่อคน ไม่เชิงเรียกว่าสำรอง แต่อยู่ในหมวดการพิจารณา”
ส่วนเรื่องพรรค พปชร.และประชาธิปัตย์นั้น ไม่ขอตอบ แต่ก็เห็นว่า เขาส่งคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อใส่ซองมา คาดว่าตรวจสอบไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์ หรืออาจจะ 1 สัปดาห์ก็ได้
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยความคืบหน้าการคัดเลือกรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทย ล่าสุดวันที่ 22 ส.ค. (ซึ่งโผอาจยังไม่นิ่ง) ประกอบด้วย
-นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ย้ายจาก รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็น รมว.กลาโหม
-พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็น รมช.กลาโหม
-นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
-น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ สส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย เป็น รมช.มหาดไทย แทนนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทยคนปัจจุบัน
-นายพิชัย ชุณหวชิร ยังเป็น รมว.คลัง
-นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกฯ ตำแหน่งเดียว
-นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ
-นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน อาจได้เป็น รมว.พาณิชย์
ส่วนตำแหน่งที่คาดว่าจะอยู่ตำแหน่งตามเดิม คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อาจได้อยู่ตำแหน่งเดิม คือ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็น รมว.วัฒนธรรม น.ส.จิราพร สินธุไพร เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็น รมช.คลัง นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็น รมช.คมนาคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็น รมว.การต่างประเทศ
นายสุทิน คลังแสง นายจักรพงษ์ แสงมณี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ พ้นจาก ครม.
เรื่องร้อนๆ ทางการเมืองที่น่าสนใจคือ การพิจารณา สส.พรรคก้าวไกล 44 คนที่ยื่นเสนอร่างแก้ ม.112 กระทำการขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดย ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าไปให้ข้อมูล ป.ป.ช. เมื่อปลายเดือน ก.ค. ว่า เลขาฯ สภามีความเห็นจากการวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะว่าเป็นการย้ายหมวด ย้ายจากหมวดความมั่นคง หมวดที่ร่างหมายกำหนดไว้ในหมวดใหม่
“แต่พรรคที่ยื่นร่างกฎหมายไม่ได้มีการแก้ไข แต่มีการเสนอเข้ามาใหม่ และได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานเพื่อเสนอความเห็น คณะกรรมการฯ ก็มีความเห็นเหมือนกัน แต่เพิ่มเป็น 4 ประเด็น นอกจากการย้ายหมวด ยังมีอีก 3 ประเด็นที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แจ้งแล้วพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้แก้ไข สุดท้าย ผู้ที่จะชี้ขาดว่าการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็คือศาลรัฐธรรมนูญ”
เรื่องที่กระหึ่มในโลกออนไลน์ คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดถึงการยุบพรรคก้าวไกลในน้ำเสียงเย้ยหยัน เช่น ได้ช่วยหาเงินให้พรรค ยุบแล้วก็ไปต่อได้ เรื่องนี้นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะยื่นญัตติด้วยวาจาต่อที่ประชุมสภา เพื่อตรวจสอบการทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตรวจสอบในเรื่องจริยธรรม จากนั้นจะส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป เพราะการพูดเช่นนั้นเหมือนผู้ที่ปาราชิกแล้วเป็นพระต่อไม่ได้ เมื่อดูจากภาพเป็นการหัวเราะเยาะเย้ย และเห็นว่าพฤติกรรมอย่างนี้ ไม่คู่ควรจะดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป นี่เป็นการถ่วงดุลตรวจสอบ
นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงว่า ขอตั้งคำถามไปยังบรรดาตุลาการทั่วประเทศว่า ฟังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนนี้พูดแล้วท่านคิดเช่นใด บูรพตุลาการหรือตุลาการในอดีตที่เคยสั่งสอนตุลาการมาหลายชั่วคน เคยสั่งสอนตุลาการรุ่นต่อๆ มาให้กล่าวเยาะเย้ยเสียดสีหรือทวงบุญคุณกับตัวความในคดีที่ตนเองตัดสินเช่นนี้หรือ เรื่องนี้จะทำให้สถาบันตุลาการสั่นคลอน จริยธรรมของตุลาการจะถูกตั้งคำถามจากประชาชน
“ต้องไม่ลืมคือตุลาการ หรือศาล ที่ทำหน้าที่ตัดสินคดีนั้น ได้กระทำลงภายใต้พระปรมาภิไธย ตุลาการจะคะนองปากเอาคำตัดสินที่ตนตัดสินมาเสียดสีคนอื่นไม่ได้ นับวันเราจะเห็นคนบางกลุ่มที่คอยชี้ว่าคนนี้ไม่มีจริยธรรม คนนั้นไม่มีจริยธรรม ได้แสดงความคิดความอ่านอะไรออกมาต่อสาธารณะ แล้วทำลายสถาบันสำคัญของชาติที่ตัวเองสังกัดเอง”
ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ เวลา 19.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขึ้นเวทีกล่าวในงาน ดินเนอร์ ทอล์ก วิสัยทัศน์ประเทศไทย ของเนชั่นทีวี ตอนหนึ่งว่า วันนี้คนไทยติดกับดักหนี้ทำให้เดินไม่ออก หนี้สินของรัฐแก้ไม่ยาก ถ้าทำให้จีดีพีโตได้ ถ้าขยายฐานภาษี ก็ทำให้สัดส่วนรายได้ต่อจีดีพีดีขึ้น ส่วนหนี้ครัวเรือน และอยากให้ รมว.คลังคิดเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ การแฮร์คัตหนี้ประชาชน ธนาคารปล่อยกู้ประชาชนได้ และเอาเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมา เพื่อเพิ่มจีดีพี
“เรื่องเศรษฐกิจใต้ดิน มันมีสองส่วนที่สำคัญคือยาเสพติด กับพนันออนไลน์ มีคนบอกผมว่าคนไทยขาดทุนให้กับพนันออนไลน์ต่างประเทศปีละแสนเจ็ดหมื่นกว่าล้าน ในประเทศยอดฝากก่อนเล่นการพนันออนไลน์ ประมาณ 3 ล้านล้าน ยอดเล่น 5 แสนล้านบาท ถ้าเราเก็บภาษีได้ สมมุติจากเงิน 3 แสนล้านบาท เก็บ 30% ถ้าเราเอามาใช้ส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศ สร้างครูเก่งๆ ให้เป็นโรงเรียน 2 ภาษา ใช้เงินเพื่อสร้างเครื่องมือการเรียนการสอนได้จะดี” อดีตนายกฯ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวว่า นายกฯ ชอบทำงานเป็นทีม คงหาเจ้าภาพไปจัดการแต่ละเรื่อง เพราะเรามีหลายเรื่องให้แก้ เช่น อยากเห็นนักธุรกิจไทยไปลงทุนในเวทีโลก ลดราคาค่าพลังงาน เตรียมตัวรับรองกับเรื่องการพัฒนาเอไอ ดึงคนเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานผลิตโครงสร้างอุตสาหกรรม เช่น ดึงไต้หวันใช้ไทยเป็นฐานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ขอจีนให้ไทยเป็นฐานผลิตรถอีวีพวงมาลัยขวาได้หรือไม่
แก้ไขเรื่องสินค้านำเข้า ราคาเมื่อก่อนมีเรื่องไม่ถึง 1,500 บาทไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เราต้องทำให้เกิดความเท่าเทียมในการแข่งขัน พัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ส่งเสริมคนไทยผลิตเกมดีๆ โดยให้โทเคน (เงินดิจิทัล) กับคนเล่นเกมไทย และผู้ผลิตเอาโทเคนมาขึ้นเงินกับรัฐบาล สร้างดีไซเนอร์ สร้างนางแบบตัวดำๆ แห้งๆ จมูกแบนๆ จากทางอีสานเราเป็นนางแบบระดับโลกได้ เราพร้อมจะส่งเสริม เช่นเดียวกันบราซิลมีรายได้ดีมากคือฟุตบอลกับนางแบบ
“การลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐจะต้องเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีของรัฐบาลนี้ และถ้าชนะเลือกตั้งก็ลงทุนต่อในรัฐบาลหน้าอีก ที่ผมพูดไว้นานแล้ว แต่ไม่ได้ทำคือ การถมทะเลบางขุนเทียน ปากน้ำ เพื่อได้พื้นที่ขยายความแออัดของกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสีเขียว ให้เฉพาะรถไฟฟ้าวิ่ง มีรถไฟเชื่อม ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ได้ รถไฟฟ้า 20 บาท ก็คงต้องทำ เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูดแล้วต้องทำให้ได้ อาจต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐแล้วอ้างเอกชนบริหาร และกำหนดค่าตั๋วเอง ไม่เช่นนั้นเอกชนจะมุ่งกำไร เราต้องตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมาสนับสนุนเงินตรงนี้ด้วย”
“ผมขอให้คนไทยรักกัน ผมโดนเยอะที่สุด แต่ผมก็กลับมายังเจอคนนั้นพบคนนี้ได้ ผมถือว่า อดีตก็อดีตไป แต่ผมอยากอยู่กับปัจจุบันและอนาคต เราเห็นว่ารัฐบาลใหม่พรรคโน้นนี้มาร่วมกันแต่ถึงเวลาที่เราต้องรวมน้ำใจกันแก้ปัญหาให้เป็นหนึ่ง ผมรักบ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมืองดี พร้อมอยู่ข้างหลัง ช่วยคิดให้ทั้งรัฐและเอกชน” นายทักษิณ กล่าว
“ทีมข่าวการเมือง”