นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานกล่าวต้อนรับ คณะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยความร่วมมือระหว่าง ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำทัพ Seller ภาคอีสาน จํานวน 54 คน 41 หน่วยงาน นำโดยนายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภูมิภาคภาคใต้ นำโดยนางวัจนันท์ ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ โดยกำหนดจัดกิจกรรม Road Show ส่งเสริมการขายเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ภายใต้กิจกรรม “จากโขง ชี มูล สู่…หรอยแรงแหล่งใต้” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาค อันจะนำไปสู่การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ด้วยการเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการ หน่วยงานพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ควบคู่กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ในระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2567 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา โดยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช กำหนดจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการขายพบปะเจรจาธุรกิจในรูปแบบ Table Top Sale ในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ระหว่างเวลา 16.00-21.00 น. ณ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช

โดยมีนายมนตรี มานะต่อ ผู้อํานวยการสํานักงาน ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช นายชัยรัตน์ รัตนมาศ รองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นายประยูร เงินพรหม ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชนในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตลอดจนผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชนและสื่อมวลชน ร่วมต้อนรับและเข้าร่วมงานในฐานะเจ้าบ้านที่ดีอย่างอบอุ่น โดยในวันที่ 23 สิงหาคม จ.นครศรีธรรมราช จะมีการจัดกิจกรรมแบบเดียวกันที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา    

นายมนตรี มานะต่อ ผู้อํานวยการสำนักงาน ททท. สํานักงานนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีในการขยายตลาดท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองหลักและเมืองรองที่มีศักยภาพเชื่อมโยงข้ามภูมิภาค โดยนครศรีธรรมราชมีสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวหลากหลายอันเป็นที่ต้องการของกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจากภาคอีสานซึ่งมีศักยภาพในการใช้จ่าย โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกเลือกให้เป็นพื้นที่หนึ่งในการจัดกิจกรรมพบปะเจรจาทางธุรกิจ Table Top Sale ระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวบริษัททัวร์ ที่พัก ร้านอาหาร และหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ นับว่านครศรีธรรมราช มีจุดแข็งด้านทรัพยากรท่องเที่ยวหลากหลายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ รวมถึงมีศักยภาพโดดเด่นและมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาและศาสนาและวัฒนธรรม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งน้ำตกทะเลหมอก หาดทราย ชายทะเล อาหารถิ่น อาหารทะเล สินค้าของที่ระลึก งานหัตถศิลป์ ซึ่งเป็นที่ต้องการและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคภาค มีความคุ้มค่าในด้านการใช้จ่ายทั้งเรื่องที่พัก อาหาร ตลอดจนมีกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายเหมาะแก่การเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการนำเที่ยวจากภาคอีสานผู้ประกอบการภาคใต้ นอกจากนี้นครศรีธรรมราชยังสามารถเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกับเมืองหลักที่มีสายการบินข้ามภูมิภาค อาทิ ภูเก็ต หาดใหญ่ ที่ให้บริการเส้นทางขอนแก่น และอุดรธานี โดยมีระยะเวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมง    

อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ พังงา) และฝั่งอ่าวไทยตอนบน (สุราษฎร์ธานี-เกาะสมุย) และอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา-หาดใหญ่) ทั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะเติบโตด้านการท่องเที่ยวในมิติของโครงข่ายด้านการคมนาคมที่ ทันสมัยและเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวหลัก อาทิ สนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราชมีศักยภาพในการ รองรับนักท่องเที่ยว 600 คน/ชั่วโมง และกำลังจะมีเที่ยวบินข้ามภูมิภาคและเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยมีสิ่งก่อสร้างและระบบในการรองรับนักท่องเที่ยว โดยท่าอากาศยานได้เตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างและระบบการทำงานของสนามบินเพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว อีกทั้งในอนาคตอันใกล้ ยังมีโครงการทางพิเศษสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี)-ขนอม (นครศรีธรรมราช) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2571 และเปิดบริการในปี 2575 ซึ่งจะเป็นโอกาสก่อให้เกิดการกระจายตัวจากแหล่งท่องเที่ยวหลักสู่แหล่งท่องเที่ยวรองและในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ผู้อำนวยการกล่าวในตอนท้าย ว่า ททท. คาดหวังว่าการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย Road Show ข้ามภูมิภาค “จากโขงชีมูลสู่…หรอยแรงแหล่งใต้”

ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งสองภูมิภาคได้แลกเปลี่ยนซื้อ-ขาย และพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวเพื่อให้สอดรับกับกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ เกิดการสร้างเครือข่าย แลกเปลี่ยนแนวคิดในการส่งเสริมธุรกิจทางการท่องเที่ยว สร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ อันจะก่อให้เกิดการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น อันส่งผลให้เกิดอัตราการเติบโตและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและมีการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นของไตรมาสสุดท้ายแห่งปี 2567 ตลอดจนต่อยอดผลักดันให้เกิดการบูรณาการด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงข้ามภูมิภาคภาคอีสาน-ภาคใต้ ร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำพาสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต นายมนตรี กล่าว