เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องสอบจริยธรรม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ปมคุกคามนักข่าว ว่า สภาเป็นเพียงหน่วยงานรับเรื่องเท่านั้น โดยฝ่ายกฎหมายจะต้องดูสิ่งที่ปรากฏ เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป คงจะต้องมีการตรวจสอบ ทั้งยังเป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาที่จะต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ช. หรือศาลฎีกา

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า ประธานสภา ไม่ได้มีหน้าที่วินิจฉัยว่าความ ถ้าเขาเรียกร้องถูกต้อง ข้อกฎหมายถูกต้องก็ต้องส่งให้หน่วยงานที่พิจารณาเรื่องนี้ ในรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะต้องส่งให้หน่วยงานใด ขอให้รอฝ่ายกฎหมายเสนอมาให้กับประธานสภา เพราะตนเองยังไม่เห็นคำร้อง เป็นเรื่องจริยธรรมหรือร้องเรื่องอะไร ยืนยันว่าสภาไม่ได้มีอำนาจพิจารณาเรื่องนี้ ทั้งนี้ ขอให้ดูว่าร้อง พล.อ.ประวิตร ในฐานะใด ในฐานะ สส. ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้าเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของ สส. อาจเป็นเรื่องของหน่วยงานอื่น ต้องดูในรายละเอียด เพราะเหตุเกิดขึ้นนอกสภา

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงกรณีการดำรงตำแหน่งของรักษาการ ว่า งานรัฐสภาก็ยังขับเคลื่อนไปได้ ไม่ว่าเรื่องงบฯ รัฐบาลรักษาการสามารถเสนอมา เมื่อคณะ กมธ.วิสามัญงบประมาณ 2568 ดำเนินการเสร็จ ก็เข้าวาระ 2-3 ในการประชุมสภา ครม.รักษาการ ก็สามารถเสนอมาได้ โดยกำหนดเวลาการพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน 105 วัน ส่วนการส่งรายชื่อของ ครม. เป็นเรื่องของรัฐบาล นายกฯ ซึ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว จะเป็นคนเสนอรายชื่อของ ครม.ชุดใหม่ เพื่อโปรดเกล้าฯ ต่อไป ในสัดส่วนของ พรรคประชาชาติ ตนทราบจาก กก.บห. มีมติส่งชื่อ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ไปเป็นรัฐมนตรี จะอยู่กระทรวงไหนเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ  

เมื่อถามถึง กระแสข่าวว่าพรรคประชาชาติเคยขอเก้าอี้รัฐมนตรี 2 ที่นั่งนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค จึงไม่ทราบเรื่องนี้ รู้เพียงว่าส่งไป 1 รายชื่อเท่านั้น

เมื่อถามถึงตำแหน่งประธานสภาที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะทวงคืนเก้าอี้นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เก้าอี้ประธานสภา เป็นเรื่องของ สส. เป็นกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร ส่วนรองประธานสภาคนที่ 1 เนื่องจากว่านายปดิพัทธ์ สันติภาดา ได้ออกจากตำแหน่งไป ก็รอทางวิปฝ่ายค้านและรัฐบาลส่งรายชื่อมา สำนักเลขาธิการสภา และกองการประชุม พร้อมที่จะจัดให้มีการเลือกทันทีที่ได้รับแจ้งจากประธานวิปทั้งสองฝ่าย ในวันพรุ่งที่ 23 ส.ค. นี้ จะย้ำอีกครั้ง เพราะจะมีการประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาการประชุมร่วม โดยมีวาระที่จำเป็นต้องประชุมภายในวันที่ 30 ส.ค. นี้.