เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดสดเทศบาล 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชน หลังมีกระแสข่าวมาว่า รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเปลี่ยนจากเงินดิจิทัล เป็นเงินสด 10,000 บาท

‘ศิริกัญญา’จี้ ‘นายกฯอิ๊งค์’ รีบแถลงนโยบายหวัง‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ชัดเจน

นางตุ๊กตา สรีอภัย อายุ 57 ปี แม่ค้าขายปลา กล่าวว่า ถ้าได้เป็นเงินสดจริงๆ จะดีมาก เพราะเงินส่วนนี้จะได้เอาไปเสียค่าน้ำค่าไฟ ให้ลูกไปโรงเรียน เพราะเมื่อดูตามข้อเท็จจริงแล้ว ถ้าได้เป็นเงินดิจิทัล 10,000 บาท น่าจะใช้ได้ยาก แต่ถ้าเป็นเงินสดจะใช้ง่าย และจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้นด้วย เพราะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ สามารถใช้เติมน้ำมันได้ ให้ลูกไปโรงเรียนได้

“เดี๋ยวนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนต้องการเงินสด ถ้าได้เงินส่วนนี้มาจะนำไปเสียค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะติดมา 2 เดือนแล้ว เพราะขาดสภาพคล่องที่จะนำเงินไปใช้จ่าย ขายของก็ยากลำบาก คนซื้อก็ซื้อยาก พฤติกรรมคนซื้อเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน ตอนนี้ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะได้เงิน 10,000 บาท ถ้าทำสำเร็จและได้เงินจริงๆ ตอนนั้นถึงจะเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลจริงๆ ตราบใดที่ยังไม่เห็นเงิน ก็ไม่มีทางเชื่อ ถ้าได้เงินสด อยากจะได้เป็นงวดเดียว ไม่ต้องแบ่งจ่าย ค่าน้ำก็แพง ค่าไฟก็แพง ค่าน้ำมันรถ ให้ลูกไปโรงเรียน เงิน 10,000 บาท ใช้ได้ไม่กี่วันก็หมด”

นางเพ็ชรัตน์ กองพล อายุ 58 ปี แม่ค้าขายไส้กรอก กล่าวว่า เงินสดที่รัฐบาลจะให้ ตนคิดว่าดี เพราะทุกคนมีรายจ่ายครอบครัวตน โดยเฉพาะคนแก่อยู่บ้านก็ถามมาว่าจะได้จริงไหม ก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ จะพาทำ และเชื่อว่าจะต้องได้อย่างแน่นอน เพราะรายจ่ายก็มีมาก ถ้าได้เงินตัวนี้เข้ามา จะสามารถช่วยเหลือคนเฒ่าคนแก่เหล่านี้ได้อย่างมาก ความหวังตอนนี้เชื่อว่าทำได้

“ที่ผ่านมาในรัฐบาลลุงตู่สามารถทำได้มาแล้ว ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลก็น่าจะทำได้ เพราะมีทีมงานของตัวเอง ทุกอย่างสามารถจัดการได้หมด ขนาด 30 บาทรักษาทุกโรคก็ยังสามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคณะรัฐบาลที่จะช่วยกันผลักดัน ไม่ขัดแย้งกันก็จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน”

นางเพ็ชรัตน์ กล่าวอีกว่า หากได้เงินจริง อันดับแรกจะนำไปซื้อข้าวสารไว้ในครัวเรือน รวมทั้งของใช้จำเป็น เพราะเงินที่ได้มาแม้ว่ามีข้อแม้ ก็จะไปซื้อของใช้จำเป็นเหล่านี้ เงินอื่นๆ ที่เราหาเองก็ค่อยไปซื้อสิ่งของอื่นๆ แทน เพราะเงินที่ให้มาเป็นเงินที่ทางรัฐบาลให้มาใช้จ่ายในการดำรงชีพ อาจจะจ่ายแบบรายงวดก็ได้ ถ้าเป็น 2 งวดก็จะดี ถ้าได้ก้อนเดียว ลูกหลานก็จะมาขอไปหมด ทำให้ไม่ได้ใช้

นางทิวารัตน์ สร้อยสุวรรณ์ อายุ 42 ปี แม่ค้าขายผลไม้ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนที่จะแจกเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะกลัวว่าไม่มีสิทธิไปซื้อร้านค้าที่ต้องการซื้อ เพราะอาศัยอยู่ในเมือง แต่ทะเบียนบ้านอยู่นอกเมือง ก็ต้องกลับบ้านไปซื้อของ มันทำให้เกิดความลำบากในการซื้อของ ไม่เหมือนเงินประชารัฐ แม้ซื้อของข้ามจังหวัดขอแค่มีธงฟ้าติดอยู่ก็จะสามารถซื้อได้ทุกร้าน และสามารถซื้อเป็นของฝากหรือซื้อขนมให้ลูกหลานได้ในแต่ละที่

“พอมีกระแสข่าวว่าจะมีการแจกเป็นเงินสด ก็จะลงทะเบียนด้วย ถ้าได้เป็นเงินสดจะดีมาก จะดีทั้งคนซื้อ คนขาย เป็นอิสระในการซื้อของ ไม่จำกัดขอบเขต ไม่จำกัดระยะทาง ไม่จำกัดสถานที่ซื้อ ถ้าคนใช้เงินเป็น ก็จะถูกวัตถุประสงค์ แต่ถ้าคนใช้ไม่ถูกหลักก็คงนำไปซื้อของที่ไม่จำเป็น เช่น ซื้อหุ้น ซื้อหวย ถ้าตนเองได้เงินมาก็จะนำไปซื้อของเข้าร้านมาค้าขาย เพราะตอนนี้เงินไม่มีหมุน อย่างไรก็ดีส่วนตัวก็ยังมองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเป็นจำนวนเงินที่เยอะ แต่ถ้าได้จริงก็อยากให้แจกจ่ายเป็นงวด งวดละ 2,000 บาท เพราะคนไทยใช้เงินไม่เป็น ขนาดคนถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ก็ยังกลับมาจนเหมือนเดิมได้ ถ้าได้เป็นก้อนก็คงแป๊บเดียวหมด”