สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ว่า กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ที่เมืองไซดอน ทางตอนใต้ของเลบานอน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อสังหาร “พี่น้องของนายมูเนียร์ อัล-มัคดาห์” ผู้นำกองกำลังทางทหารของพรรคฟาตาห์ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลปาเลสไตน์ ที่มีฐานอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ เนื่องจากอยู่เบื้องหลังการโจมตีและการลำเลียงอาวุธเข้าสู่เขตเวสต์แบงก์ และการร่วมมือกับกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี )


ขณะที่พรรคฟาตาห์ออกแถลงการณ์ ว่าผู้เสียชีวิตคือนายคาลิล อัล-มัคดาห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำอาวุโสทางทหารของพรรคฟาตาห์ และประณามอิสราเอลต้องการยกระดับความรุนแรงของสงคราม เนื่องจากนับเป็นครั้งแรกในรอบนานกว่า 10 เดือน ตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อเดือน ต.ค. 2566 ซึ่งอิสราเอลพุ่งเป้าโจมตีสมาชิกระดับสูงของพรรคฟาตาห์


นอกจากนี้ การสังหารคาลิล เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ เสร็จสิ้นภารกิจการเยือนตะวันออกกลางครั้งล่าสุด ซึ่งรวมถึงการเยือนอิสราเอลและกาตาร์ เพื่อผลักดันการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงครั้งใหม่ ซึ่งบลิงเคนกล่าวว่า รัฐบาลเทลอาวีฟยอมรับ “ข้อเสนอประนีประนอม” เพื่อนำกลุ่มฮามาสเข้าสู่กระบวนการ


อย่างไรก็ตาม ยังมีเงื่อนไขและจุดยืนบางประการที่อิสราเอลยังคงเน้นย้ำ และยืนกรานไม่มีทางเป็นฝ่ายยอมถอย โดยแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลวอชิงตันกล่าวว่า “มากเกินไป” หนึ่งในนั้น คือการที่อิสราเอลยังคงต้องการประจำการทหารไว้ตามพื้นที่ “ซึ่งมีความสำคัญทั้งทางยุทธศาสตร์และการเมือง” ในฉนวนกาซา ซึ่งรวมถึงภาคใต้ของฉนวนกาซา ที่มีพรมแดนติดกับอียิปต์ หรือที่เรียกกันว่า “ระเบียงฟิลาเดลเฟีย”


ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลวอชิงตัน ต่างแสดงความหวัง ว่ากลุ่มฮามาสจะยินยอมรับข้อเสนอประนีประนอมเช่นกัน และสหรัฐขอให้ทั้งสองฝ่าย “ยืดหยุ่นให้มากที่สุด” เพื่อให้การเจรจาเดินหน้าต่อไปได้ในทางเทคนิค.

เครดิตภาพ : AFP