เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่ รฟท. ได้ออกประกาศเชิญชวน และจำหน่วยเอกสารประกวดราคาจ้างในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-bidding) งานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย โดยกำหนดให้เอกชนที่ได้ยื่นข้อเสนอ และเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์แล้ว นำเอกสารส่วนที่เป็นข้อเสนอด้านเทคนิคเพิ่มเติมมอบให้กับ รฟท. ที่บริเวณห้องประชุมบุรฉัตร สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในวันที่ 21 ส.ค. 67 ปรากฏว่า มีผู้สนใจเข้ายื่นเอกสารทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย

1. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และ 4. กิจการร่วมค้า ช.ทวี – เอเอสก่อสร้าง ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนต่อไป รฟท. จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ และข้อเสนอด้านเทคนิค เมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว จะนำรายชื่อเสนอต่อคณะกรรมการ รฟท. เพื่อพิจารณาอนุมัติผลการพิจารณา และประกาศผลผู้ที่ชนะการประกวดราคาทางเว็ปไซต์ของ รฟท. www.railway.co.th ประมาณเดือน ต.ค. 67 จากนั้น รฟท. จะลงนามในสัญญาจ้างเอกชนกับผู้ชนะการประกวดราคา เพื่อดำเนินงานต่อไป

นายเอกรัช กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ซึ่ง รฟท. ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 66 โดยเป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม รวมระยะทางประมาณ 167 กิโลเมตร (กม.) ประกอบด้วย อาคารสถานีทั้งสิ้น 14 สถานี ที่หยุดรถจำนวน 4 แห่ง ชานบรรทุกสินค้า 4 แห่ง และชานบรรทุกทหาร 1 แห่ง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง งบประมาณในการก่อสร้าง จำนวน 28,719,940,000 บาท

โดยเส้นทางนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อจากช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ผ่านจังหวัดอุดรธานี และสิ้นสุดที่สถานีหนองคาย เพื่อเติมเต็มระบบรถไฟทางคู่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบรางทั้งการขนส่งสินค้า และโดยสาร ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสติกส์ ลดระยะเวลาในการเดินทางได้ 1-1.50 ชั่วโมง ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงลด และปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟ-รถยนต์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ที่ให้ รฟท. เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และรถไฟสายใหม่ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางราง ให้เป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ และสามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน ตลอดเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าได้ทุกภูมิภาค ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศต่อไป.