“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” แจ้งว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ส่งหนังสือแจ้งยืนยันไปยังกระทรวงคมนาคมแล้วว่า จะไม่มีการปรับปรุงแบบ และขนาดอุโมงค์ โครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร (กม.) ให้เล็กลง หลังจากก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ให้ กทพ. พิจารณาปรับแบบอุโมงค์ เพื่อทำให้ค่าก่อสร้างถูกลง และมีความปลอดภัยมากขึ้น ตลอดจนให้พิจารณาว่าจะใช้แหล่งเงินทุนใด ซึ่งจากการพิจารณาเบื้องต้น กทพ. มองว่าหากต้องปรับแบบฯ จะทำให้การก่อสร้างมีความล่าช้า เพราะต้องศึกษาปรับแบบ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เดิม ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ส่วนการก่อสร้างนั้น กทพ. จะลงทุนเองทั้งหมด วงเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นเงินกู้ หรือออกพันธบัตร โดยจะก่อสร้างตามรูปแบบเดิม เป็นการก่อสร้างทางยกระดับ มีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวเส้นทาง ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร (กม.) ซึ่ง กทพ. ได้ศึกษาเรื่องความปลอดภัยในการใช้อุโมงค์มาอย่างดีแล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในปี 67 กระทรวงคมนาคมจะสามารถเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่พิจารณาเรื่องการเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนจากเดิมที่ ครม. เคยอนุมัติให้ลงทุนในลักษณะเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) เป็นการลงทุนเองทั้งหมด เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หาก ครม.เห็นชอบ กทพ. จะเริ่มดำเนินการหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการทางด่วน สายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้เลย ซึ่งจะทำให้การก่อสร้างเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นตามแผนงานคาดว่าจะใช้เวลาในขั้นตอนการเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้างก่อสร้างประมาณ 6 เดือน จะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 68 ก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 72 โดยจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร และลดอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 รวมทั้งสามารถใช้เป็นเส้นทางอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติ ตลอดจนเชื่อมโยงการเดินทางจาก อ.กะทู้ไปยังหาดป่าตอง และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับคนในพื้นที่ นักท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตด้วย
ทั้งนี้ทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง เป็นทางยกระดับ มีอุโมงค์อยู่ช่วงกลางของแนวสายทาง มีจุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับถนนพระเมตตา ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง (รถยนต์ 2 ช่องจราจร และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจร) ยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์ จนถึงเขานาคเกิด ระยะทาง 0.9 กม. แล้วจึงเป็นอุโมงค์ลอดเขานาคเกิด ระยะทาง 1.85 กม. หลังจากผ่านช่วงภูเขาจึงเป็นทางยกระดับ ระยะทาง 1.23 กม. จนถึงสิ้นสุดโครงการในพื้นที่ ต.กะทู้ บริเวณจุดตัดกับ ทล.4029
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ส่วนโครงการทางด่วน สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง ระยะทางประมาณ 30 กม. วงเงินประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายงาน EIA ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงาน EIA แล้ว เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) คาดว่าจะเสนอกระทรวงคมนาคม และ ครม. พิจารณาได้ในปี 68 เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 69 ก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดให้บริการในปี 72
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การก่อสร้างทางด่วนใน จ.ภูเก็ต ทั้ง 2 ระยะ ได้แก่ สายกะทู้-ป่าตอง และเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ กทพ. จะลงทุนก่อสร้างเอง ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางนี้รวมแล้วมีความสามารถทำกำไร (Margin) อยู่ที่ 4% เป็นตัวเลขที่ไม่สูงมาก หากเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) คาดว่าจะไม่มีเอกชนรายใดสนใจเข้าร่วมประมูล โดยเอกชนส่วนใหญ่อยากให้ Margin อยู่ที่ 10% ซึ่งในส่วนของ กทพ. แม้ Margin 4% ก็รับได้ จึงลงทุนก่อสร้างเอง ส่วนการดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษา (O&M) ตลอดทั้งเส้นทาง ตั้งแต่เมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้-ป่าตอง กทพ. จะเสนอกระทรวงคมนาคม และครม. ในปี 70 เพื่อพิจารณาดำเนินการในรูปแบบ PPP ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด
เบื้องต้นทางด่วน สายกะทู้-ป่าตอง จะจัดเก็บค่าผ่านทางรถจักรยานยนต์ 15 บาท ,รถ 4 ล้อ 40 บาท, รถ 6-10 ล้อ 80 บาท และมากกว่า 10 ล้อ 125 บาท