เช้าตรู่ของวันที่ 8 ส.ค. 2567 มีผู้พบเห็น เวอร์จิเนีย วินตัน วัย 57 ปี คุณแม่ลูกสองเข้าไปในพื้นที่สงวนสำหรับพนักงานสนามบินชิคาโก โอ’แฮร์ หลังจากนั้นก็มีผู้พบร่างของเธอติดอยู่ในสายพานลำเลียงกระเป๋า
ช็อกกลางสนามบินพบ ‘ร่างสาวใหญ่’ ดับปริศนาในสายพานรับกระเป๋าเดินทาง!
หน่วยดับเพลิงและกู้ภัยชิคาโกได้รับแจ้งเหตุและเดินทางมายังสนามบินเพื่อช่วยเหลือหญิงสาวที่ “ติดอยู่ในสายพาน” แต่พบว่าเธอเสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 07.55 น.
จากการสืบสวนพบว่า วินตันไม่ได้ทำงานที่สนามบินแห่งนี้ และแม้ว่าพื้นที่ที่เธอเข้าไปก่อนเสียชีวิตนั้นเป็นพื้นที่หวงห้ามสำหรับบุคคลภายนอก แต่ก็ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
ผู้ที่พบศพของวินตันคนแรกคือพนักงานขนย้ายกระเป๋าของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ส ซึ่งในตอนแรกนั้น เขาไม่รู้ว่าเธอเสียชีวิตแล้ว
พนักงานผู้นี้ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า ตอนนั้นเขาเองก็สงสัยว่าทำไมถึงมีผู้หญิงอยู่บนสายพานและเอาแต่จ้องมองเขา เขายังคิดว่าเป็นคนที่มาคอยจับตาดูการทำงานของเขา
พนักงานคนนั้นไม่รู้ว่าวินตันเสียชีวิตแล้ว เขายังเอ่ยถามเธอว่าต้องการให้เขาปิดการทำงานของสายพานลำเลียงกระเป๋าหรือไม่ แต่แล้วเขาก็รู้สึก “ขนลุก” แบบแปลก ๆ จึงร้องถามกับศพของวินตันอีกว่า “คุณโอเคมั้ย?” ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าเธอไม่หายใจแล้ว
หลักฐานจากคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นภาพของวินตันกำลังนั่งอยู่ตรงบริเวณเทอร์มินัลที่ 5 เมื่อเวลาประมาณ 02.26 น. ของวันที่ 8 ส.ค. 2567 จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามซึ่งเต็มไปด้วยสายพานลำเลียงกระเป๋าเดินทางจากเครื่องบินต่าง ๆ เพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่อื่น
สำนักนิติเวชประจำเขตคุกเคาน์ตีของชิคาโกสรุปกรณีเสียชีวิตของวินตันว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
ข้อความจากคำไว้อาลัยแด่วินตันระบุว่าเธอเคยทำงานเป็นมิชชันนารีในประเทศโมซัมบิกร่วมกับสามีของเธอ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาการเตรียมตัวเพื่อเป็นพลเมืองของประเทศ
การเสียชีวิตของวินตันถือเป็นการละเมิดความปลอดภัยครั้งที่สองของสนามบินในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคม มีผู้หญิงคนหนึ่งอาศัยโต๊ะและเก้าอี้ปีนข้ามกำแพงกั้นจุดตรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่ปิดให้บริการในเทอร์มินัลที่ 1
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES