ในชีวิตของเรามีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้นอาจนำไปสู่ความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้ การมีตัวช่วยลดความเสี่ยงอย่าง “การทำประกัน” ประเภทต่าง ๆ ที่ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายในชีวิตได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการซื้อประกันรถหรือการซื้อประกันรถไฟฟ้ายานพาหนะสำคัญที่เราต้องใช้ทุกวัน รวมถึงการซื้อประกันบ้านที่จำเป็นต่อการอยู่อาศัย และการซื้อประกันการเดินทางเผื่อไว้คุ้มครองอุปสรรคจากการเดินทาง ซึ่งในปัจจุบันมีหลายคนหันมาทำประกันออนไลน์มากกว่าการทำกับตัวแทนประกันเสียอีก ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างไร และควรทำกับใครมากกว่าไปอ่านกัน


ทำประกันออนไลน์ VS ทำกับตัวแทนประกัน แตกต่างกันอย่างไร

วิธีทำประกันออนไลน์และการทำกับตัวแทนประกันจริง ๆ แล้วอยู่ที่ความสะดวกในการทำของเรา แต่ถ้าจะให้มาพิจารณาเลือกกันจริง ๆ เราก็จำเป็นต้องดูความแตกต่างด้านข้อดีและเสียต่าง ๆ ประกอบการตัดสินใจ เราจึงรวบรวมความแตกต่างของการทำประกันทั้งคู่มาฝากกัน

1. ความสะดวกสบายและการเข้าถึงข้อมูล

  • ทำประกันรถออนไลน์ การทำประกันรถออนไลน์เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายอย่างมาก เราสามารถทำธุรกรรมทั้งหมดได้ผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบแผนประกัน กรอกข้อมูลส่วนตัว ชำระเงิน หรือแม้แต่การดาวน์โหลดกรมธรรม์ ทุกอย่างสามารถทำได้ที่บ้านหรือที่ใดก็ได้ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ คุณยังสามารถเปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัทได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยให้คุณเลือกแผนที่ดีที่สุดได้อย่างรวดเร็ว
  • ทำประกันผ่านตัวแทน การทำประกันผ่านตัวแทนยังคงเป็นวิธีที่หลายคนเลือกใช้ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการพูดคุยและการรับคำปรึกษาโดยตรง ตัวแทนประกันสามารถให้ข้อมูลที่ละเอียดและตอบคำถามที่คุณสงสัยได้ทันที อย่างไรก็ตาม การนัดหมายหรือการเดินทางไปพบตัวแทนอาจจะต้องใช้เวลาและมีความยุ่งยากมากกว่าการทำธุรกรรมออนไลน์

2. การเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครอง

  • ทำประกันรถออนไลน์ การทำประกันออนไลน์ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองได้ง่ายและรวดเร็ว โดยทั่วไปเว็บไซต์ประกันภัยออนไลน์จะมีเครื่องมือที่ช่วยในการเปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัทในเวลาเดียวกัน ทำให้เราสามารถเลือกแผนที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทำประกันผ่านตัวแทน การเปรียบเทียบแผนประกันผ่านตัวแทนอาจจะมีความจำกัดในเรื่องของความหลากหลายของแผนประกันที่นำเสนอ ตัวแทนอาจจะเน้นนำเสนอแผนประกันจากบริษัทเดียว หรือไม่กี่บริษัทที่ตัวเองเป็นตัวแทนประกันอยู่เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้เราไม่ได้รับทางเลือกที่ดีที่สุดในแง่ของราคาและความคุ้มครอง

3. การบริการลูกค้าและคำปรึกษา

  • ทำประกันรถออนไลน์ การทำประกันออนไลน์มีความสะดวกสบาย เว็บไซต์ประกันภัยส่วนใหญ่มักมีบริการแชทหรือสายด่วนที่พร้อมตอบคำถามของลูกค้า 24 ชม. แต่สำหรับบางคนการติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์อาจจะไม่สามารถให้ความละเอียดหรือความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าได้มากเท่ากับการพบตัวแทนประกันโดยตรง
  • ทำประกันผ่านตัวแทน การทำประกันผ่านตัวแทนทำให้เราได้รับคำปรึกษาที่ละเอียดและตรงกับความต้องการมากกว่า ตัวแทนสามารถแนะนำแผนประกันที่เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะของเราได้ นอกจากนี้ ตัวแทนยังสามารถช่วยในการจัดการเอกสารต่าง ๆ และการเคลมประกันได้อีกด้วย

4. ราคาและข้อเสนอพิเศษ

  • ทำประกันรถออนไลน์ การทำประกันออนไลน์มักจะมีข้อเสนอพิเศษหรือส่วนลดที่น่าสนใจ เช่น ส่วนลดสำหรับการชำระเงินออนไลน์ ส่วนลดสำหรับการต่ออายุกรมธรรม์ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการต่อเนื่อง นอกจากนี้ เนื่องจากบริษัทประกันภัยออนไลน์ไม่ต้องผ่านตัวแทนหรือมีค่าใช้จ่ายในด้านสำนักงานมากนัก จึงสามารถเสนอราคาที่ถูกกว่าได้
  • ทำประกันผ่านตัวแทน การทำประกันผ่านตัวแทนอาจจะไม่ได้รับข้อเสนอพิเศษหรือส่วนลดเท่ากับการซื้อออนไลน์ เนื่องจากตัวแทนมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และต้องได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขาย อย่างไรก็ตาม ตัวแทนอาจสามารถเจรจาต่อรองราคาและเงื่อนไขที่เหมาะสมให้กับลูกค้าได้ในบางกรณี

5. ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

  • ทำประกันรถออนไลน์ การทำประกันออนไลน์มีความปลอดภัยสูง โดยเฉพาะเมื่อซื้อจากเว็บไซต์ของบริษัทประกันภัยที่ได้รับการรับรองและมีชื่อเสียง เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลที่ทันสมัยช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและการชำระเงินของคุณได้อย่างปลอดภัย
  • ทำประกันผ่านตัวแทน การทำผ่านตัวแทนมีความน่าเชื่อถือเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าเราเลือกใช้บริการจากตัวแทนที่มีใบอนุญาตและมีประสบการณ์ การติดต่อกับตัวแทนโดยตรง ทำให้เรามั่นใจในความถูกต้องของข้อมูลและเงื่อนไขของกรมธรรม์


สรุป ความแตกต่างของการทำประกันออนไลน์และตัวแทนประกัน

การทำประกันรถออนไลน์และการซื้อผ่านตัวแทนมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกวิธีการทำประกันที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความสะดวกสบาย ความต้องการในการรับคำปรึกษา งบประมาณ และความสำคัญของความปลอดภัย แต่ไม่ว่าเราจะเลือกทำประกันด้วยวิธีไหน การตรวจสอบข้อมูลและเงื่อนไขของกรมธรรม์ ก่อนทำการซื้อนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อให้เราได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด