เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ยื่นหนังสือขอให้ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และในฐาน สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ว่ามีการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงให้ควรทราบหรือไม่

นายสมคิด กล่าวว่า นักการเมืองท่านหนึ่งที่ดำรงตำแหน่งในกระทรวงคมนาคม ได้ยื่นรายงานต่อ ป.ป.ช.ว่า มีเงินติดบัญชี 6,819 บาท แต่จากการตรวจสอบย้อนหลังในปี 2562 และ 2566 พบว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครพนม ก็ยังมีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดยยังมีกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม 2 แห่ง ไม่มีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงการถือครองที่ดินในจังหวัดนครพนมและกรุงเทพฯ อีก 14 แปลง ซึ่งได้ยื่นเอกสารทั้งหมดต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินย้อนหลังทั้งในฐานะเป็น สส.และในฐานะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย  เนื่องจาก รัฐมนตรีช่วย รายนี้ดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง เป็นนายก อบจ.นครพนม 2 สมัย และเป็น สส.นครพนมในปี 2562 และปี 2566

พร้อมกันนี้ก็ฝากไปยังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างสรรหาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ หากยังมีบุคคลนี้ร่วมใน ครม. ก็จะทำให้ล่อแหลมถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรม เป็นปัญหาข้อกฎหมายต่อไป ส่วนในวันที่ 22 ส.ค. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบ ซึ่งยังคงมีนักการเมืองอีกประมาณ 2-3 ราย ที่มีลักษณะเช่นเดียวกันที่จะถูกยื่นให้ตรวจสอบการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

“ตามเอกสารที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เธอมีที่ดินครอบครอง 14 แปลง แม้จะแจ้งต่อสาธารณชนว่าจดทะเบียนหย่ากับสามีแล้ว แต่โดยข้อเท็จจริงยังคงใช้นามสกุลสามีโดยเปิดเผย แม้ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนั้นแม้หย่าแล้วถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน และยังอยู่บ้านเดียวกัน ดังนั้นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในขณะดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครพนม สส.นครพนม ก็ต้องแสดงทรัพย์สินด้วย รวมทั้งกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม ที่ดินและทรัพย์สินอื่นๆ” นายสมคิด กล่าว

เมื่อถามว่าการที่มายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ในวันนี้ ไม่ได้เป็นการสกัดกั้นไม่ให้ รมช.คมนาคมคนดังกล่าวให้เข้ารับตำแหน่งใน ครม.ชุดใหม่ใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ใช่การสกัดกั้น แต่เป็นการยื่นตามปกติ เพื่อตรวจพบหลักฐานข้อมูล ซึ่งอาจจะไม่ใช่ รมช.คมนาคมรายนี้เพียงรายเดียว อาจจะมีรายอื่นด้วยที่มีลักษณะยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ซึ่งตนกำลังรวบรวมข้อมูลแต่ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ มีมากกว่า 3 ราย โดยมีบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในโผ ครม.ชุดใหม่ และบุคคลมีอักษรย่อ “พ” ด้วย

นายสมคิด กล่าวต่ออีกว่า  ตนมีเอกสารหลักฐานชัดเจน เพราะตนมายื่นจะต้องรับผิดชอบ หากยื่นเรื่องเท็จก็เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 อยู่แล้ว ตนยืนตามสิทธิในรัฐธรรมนูญมาตรา  285 พี่ให้สิทธิบุคคลในการยื่นตรวจสอบหน่วยงานของรัฐ บุคคลของรัฐโดยสุจริตและเปิดเผย ย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายอาญา มาตรา 239 เพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้.