เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายไชยชนก ชิดชอบ บุตรชายผู้มากบารมีในจังหวัดบุรีรัมย์ กรณีมีการถือครองที่ดินที่เขากระโดง ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีคำพิพากษาของศาลฎีกา และศาลอุทธรณ์ภาค 3 อันเป็นที่สุด คำพิพากษาของศาลปกครองว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย นั่นหมายความว่า เป็นที่ดินของสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่า บุคคลทั้ง 2 มีการพักอาศัยในที่ดินดังกล่าวหรือไม่ ใช้อำนาจอะไร มีกฎระเบียบอะไรรองรับหรือไม่ หากอยู่ในที่ดินดังกล่าว ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติ หรือฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไร เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย อย่างเช่น นายอนุทิน เป็นคุณชายอยู่ที่กรุงเทพฯ อยู่ดีๆ แต่กลับไปมีภูมิลำเนาอยู่ที่บุรีรัมย์ได้อย่างไร แต่ก็ทราบว่า นายไชยชนก ได้รับโอนมรดกเป็นหุ้นในสนามฟุตบอลนั้น จึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเรื่องนี้
เมื่อถามถึงเหตุผลของการยื่นตรวจสอบจริยธรรมในช่วงเวลานี้ เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตนตามเรื่องเขากระโดงมานานแล้ว รังวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว คิดว่าน่าจะอยู่ที่หน้าห้องอธิบดีแล้ว รอการเพิกถอนสิทธิ ส่วนเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมนั้น ต้องยอมรับว่า ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นสภาพ ก็เหมือนเป็นมาตรฐานที่เขาวางขึ้นมาใหม่ หมายความว่า ถ้าใครอยู่ในที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะต้องโดน จึงมาในวันนี้ ย้ำว่ายี่ห้อทนายอั๋นไม่มีใครจ้าง ถ้าจะให้ตนไปร้องพรรคประชาชน เหมือนแก๊ง 3 ตัวบาท ก็คงไม่ทำอยู่แล้ว แต่ถ้าตนไม่มาวันนี้ก็ไม่มีใครมา
เมื่อถามว่า นายอนุทิน พยายามสื่อสารมาตลอดว่ามีการถือโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า นั่นแหละ ถ้านายอนุทินพูดเช่นนี้แปลว่ามีการยอมรับว่ามีการถือครองที่ดินตรงนั้น ใครก็แล้วแต่ที่มีโฉนดในที่ดินเขากระโดงเวลานี้โดนหมด ทำไม่ได้ ศาลฎีกาตัดสินแล้วไปซื้อได้อย่างไร ส่วนตัวซึ่งไปดูการรังวัดที่ดินเขากระโดง ระหว่างกรมที่ดินและการรถไฟฯ ร่วมกัน ตอนนี้งดทำนิติกรรมแล้ว นั่นหมายความว่ามันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งที่จริงควรจะรู้ หรือรู้ได้ตั้งแต่วันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้ว โดยในส่วนของสนามฟุตบอลนั้น 100% ส่วนสนามแข่งรถราวๆ 50%
“ถ้าคุณอนุทินอ้างว่ามีที่ดินโดยซื้อมาโดยชอบด้วยกฎหมาย คุณจะต้องแสดงการสละสิทธิการครอบครอง สละกรรมสิทธิ์ก่อนมาดำรงตำแหน่ง ผมหาทางออกให้คุณอนุทิน ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะมีการตั้ง ครม. เมื่อไหร่ ดังนั้นแนะนำให้ไปสละสิทธิก่อน แล้วผมจะไม่ติดใจ เพราะการเป็นรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ถือว่าสิ้นสุดสภาพไปแล้ว แต่ก่อนจะมาเป็นรัฐมนตรีครั้งใหม่นี้ ก็ขอให้ไปสละสิทธิก่อน แล้วคุณต้องไปบอกคนที่คุณรู้จักว่า ให้สละสิทธิการถือครองที่ดินเขากระโดงทั้งหมด แล้วผมจะไม่ติดใจ ไม่งั้นจะเป็นวิบากกรรมของนายอนุทิน และของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ รวมถึงพ่อของแพทองธาร ด้วย ถ้าขืนแต่งตั้ง” นายภัทรพงศ์ กล่าว.