พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การต้อนรับ นายมูฮัมหมัด ราฟิค คาน หัวหน้างานคุ้มครองเด็ก องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย (UNICEF) และคณะ ณ ห้องรับรองชั้น 3 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเดินทางมายัง ศอ.บต. เพื่อพบปะผู้บริหารและหารือการขับเคลื่อนแผนงาน (Work plan) ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ร่วมกัน รวมถึงการพัฒนาแนวทางในการพัฒนาแผนงานฉบับใหม่สองปี (สำหรับปี พ.ศ. 2568 และ 2569) โดยมี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ ในการนี้ นายมูฮัมหมัด ราฟิค คาน ได้นำเสนอถึงความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนแผนงาน (Work plan) หลังจากได้มีการลงนามแผนงานฉบับแรกร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง ศอ.บต. และยูนิเซฟ ในการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กใน จชต. ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และนำเสนอแผนงานในการขับเคลื่อนงานในอนาคต รวมถึงปัญหาอุปสรรคที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข สำหรับการลงนามขับเคลื่อนแผนงานในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ ประเทศไทย เป็นการลงนามฉบับแรกในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2567

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและครอบครัว ด้วยการเสริมสร้างกลไกคุ้มครองเด็กในระดับพื้นที่ให้เข้มแข็งเพื่อเอื้อให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ อาทิ การศึกษา บริการด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต สถานะทางบุคคล และอื่นๆ ทั้งนี้ การขับเคลื่อนแผนงาน (Work plan) ในปีนี้ จะเป็นไปตาม Timeline ที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ นอกจากนี้ ทาง UNICEF ได้มีข้อเสนอในการขับเคลื่อน แผนงาน (Work plan) ในอีก 2 ปีข้างหน้า ให้มีการทำ Workshop ร่วมกัน ระหว่าง UNICEF ศอ.บต. และจากกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจในการพัฒนาแผนงานที่จะขับเคลื่อนร่วมกันต่อไปในอีก 2 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีการจัดในเดือน พฤศจิกายน หรือธันวาคม ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานระหว่าง UNICEF และ ศอ.บต. มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผ่านศูนย์ประสานงานด้านเด็กและสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศป.ดส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ ศอ.บต. เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งในระบบคุ้มครองเด็ก การใช้ประโยชน์จากข้อมูล รายงานและการศึกษาต่าง ๆ ที่ทางยูนิเซฟได้จัดทำขึ้น ไปใช้ในการกำหนดแผนงานเชิงกลยุทธ์และนโยบายขององค์กร และการให้การสนับสนุนเด็กและครอบครัวในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นช่วงอุทกภัยและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ ซึ่งความร่วมมืออย่างเป็นทางการในครั้งนี้ จะช่วยให้การขับเคลื่อนงานเป็นระบบมากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัวในจังหวัดชายแดนใต้และประเทศไทยต่อไป