เมื่อวันที่ 15 ต.ค. นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. ขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล กรณีมีกลุ่มบุคคลเข้ามาบุกรุก ทำลายรั้วแผงกั้นในพื้นที่โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง บริเวณนิคมรถไฟ กม.11 เพื่อทำเป็นทางลักผ่าน พร้อมกับขอแจ้งเตือนให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวหยุดพฤติกรรมนี้อย่างเด็ดขาด เพราะการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการทำลายทรัพย์สินทางราชการ มีโทษความผิดทางกฎหมาย ทั้งทางแพ่ง และอาญา ตลอดจนอาจทำให้เกิดอันตรายต่อประชาชนผู้สัญจรไปมาอีกด้วย
นายเอกรัช กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา รฟท. ได้ดำเนินการปิดกั้นรั้วพื้นที่โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง บริเวณนิคมรถไฟ กม.11 พร้อมกับทำป้ายแจ้งประกาศเตือนห้ามบุกรุกไปแล้ว เพื่อดูแลความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้มีการรุกล้ำที่ดินในโครงการฯ เพื่อทำเป็นทางลักผ่าน และมิให้บุคคลภายนอกเข้าใช้พื้นที่หรือนำยานพาหนะเข้าไปจอดในเขตโครงการฯ จนอาจก่อให้เกิดอันตราย เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวได้ใช้ประโยชน์สำหรับงานดูแลระบบไฟฟ้า
อย่างไรก็ตามต่อมาพบว่ายังมีกลุ่มบุคคลเข้ามาทำลายแผงรั้วและบุกรุกทำทางลักผ่านซ้ำอีก ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ทำให้เกิดอันตรายต่อสังคมส่วนรวม ตลอดจนมีความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้รถสัญจรไปมาบนถนนสายหลักและผู้ใช้บริการรถไฟ ดังนั้น รฟท. จึงขอประณาม และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด พร้อมกับขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยสอดส่องดูแล เพื่อความเป็นระเบียบของสังคม โดยสามารถแจ้งเบาะแสของผู้กระทำความผิดได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายเอกรัช กล่าวอีกว่า รฟท. ได้คำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณนิคมรถไฟ กม.11 รวมถึงผู้ใช้ยวดยานพาหนะสัญจรไปมา โดยได้มีการสร้างสะพานลอยข้ามถนน พร้อมระบบไฟฟ้าส่องสว่างให้บริการแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางจากนิคมรถไฟ กม.11 ไปใช้บริการต่อที่รถไฟชานเมืองสายสีแดง รวมถึงประชาชนที่ผู้สัญจรไปมาละแวกใกล้เคียงให้เกิดความสะดวกและปลอดภัย โดยไม่ต้องเดินผ่านในพื้นที่ดังกล่าวด้วย.