เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ “ลุงศักดิ์” หอบตะกร้าสีแดงติดป้ายคำว่า “ตะกร้าสำหรับทิ้งคำร้องไร้สาระ” ปี๊บติดข้อความ “มอบให้แก่ นายแสวง บุญมี” รวมถึงนาฬิกาแขวน ติดข้อความว่า “จะยุบพรรคภูมิใจไทย กี่โมง (ว่ะ)” โดยนำทั้งหมดนี้มายื่นต่อ กกต. เพื่อทวงถามความคืบหน้าการร้องเรียน พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กรณีคุณสมบัติผู้สมัคร สว. เป็นเท็จ
นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเคยลั่นวาจาว่าอะเอาให้ถึงที่สุด ซึ่งตนได้เข้ามาให้การกับทาง กกต. และถ้าภายในสัปดาห์หน้า ถ้า พญ.เกศกมล ไม่มา กกต. ตนจะตามแน่นอน เพราะถ้ามาหลังจากสัปดาห์หน้าไปจะถือว่ามีพิรุธ ตนไม่ยอม ที่สำคัญคือเรื่องที่จบปริญญา California University นั้นทราบว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และข้าราชการระดับสูง ทั้งข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ ก็อาจจะไปจบ California University เช่นกัน ซึ่งหากนำใบปริญญานั้นมาแขวนฝาบ้านก็จะไม่มีใครว่า แต่หากปริญญาจอมปลอมใบนี้เข้าสู่ระบบราชการ งานนี้สนุกแน่นอน
นายภัทรพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ตนมายื่นคำร้องเอาผิด สว. ที่ถือหุ้นสื่อ ซึ่งหลังจากที่ตนยื่นคำร้องดังกล่าว ทำให้มี สว. ผู้สมัคร สว. โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับเลือกให้อยู่ในบัญชีสำรอง สว. ส่งข้อมูลให้ตนจำนวนมาก ยืนยันว่า ตนจะตามสอย สว. ที่มีปัญหาให้มากที่สุด เชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 20-30 คน ขณะนี้มีหลักฐานบางส่วนอยู่ในมือ ส่วนคนที่ถือหุ้นสื่อนั้น ถือว่ามีหลักฐานสมบูรณ์แบบ ที่ได้นำมาร้องเรียนไปแล้ว ทาง กกต. เตรียมดำเนินการแล้ว
“เรื่องหมอเกศ เรื่อง สว. ถือหุ้นสื่อ ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน ผมจะตามบี้ กกต. ให้ถึงที่สุด ถ้าข้อมูลมันชัดเจน แต่คุณยังอุ้มอยู่ คุณไม่รอดหรอก เพราะตอนนี้คุณมีแผลเยอะแยะ ผมให้เวลา 30 วัน ถ้าไม่ดำเนินการ ผมจัดแน่ เตรียมร้องศาลอาญาทุจริต” นายภัทรพงศ์ กล่าว
นายภัทรพงศ์ กล่าว กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องที่ตนเคยร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อร้องเรียนนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เกี่ยวกับการถือครองหุ้นสื่อ กกต. ได้ทำหนังสือถึงตนแจ้งว่า ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว รอการตัดสิน อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนมาแล้ว ก็จะไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องเพื่อขอทราบผลการตัดสิน ไม่ต้องส่งไปรษณีย์ แต่เชื่อว่า กกต. จะไม่เอาผิดนายเรืองไกร แต่ตนอยากรู้ว่า กกต. จะให้เหตุผลเรื่องนี้อย่างไร.
