เมื่อวันที่ 20 ส.ค.นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนตามนโยบายเรียนดี มีความสุขของกระทรวงศึกษาธิการ ในสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้มีการเปิดศูนย์การเรียนรู้ชุมชน Learning Center by HUAWEI และการอบรมนักเรียนตามโครงการรถดิจิทัลบัสเพื่อสังคม (Huawei Digital Bus) ที่โรงเรียนบ้านลำนางรอง สพป.บุรีรัมย์ เขต 3 ซึ่งหัวเว่ยได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 19-26 ส.ค. 2567 ให้กับนักเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษา รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 400 คน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจทางด้านวิวัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสาร สร้างการตระหนักรู้ทางด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และสร้างความเข้าใจทางด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาให้กับโรงเรียน โดยโครงการนี้ได้ริเริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2564 เป็นระยะเวลากว่า 3 ปีแล้วที่โครงการได้เดินทางไปมอบความรู้ให้กับนักเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษา กว่า 16 จังหวัด 60 โรงเรียน ทั่วประเทศไทย และมีนักเรียนกว่า 4,500 คน ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้
.
นายภูธร กล่าวต่อไปว่า สพฐ. ขอบคุณ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้นำร่องโครงการ “รถดิจิทัลเพื่อสังคม” เพื่อสร้างความเท่าเทียมด้านทักษะดิจิทัล ยกระดับการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการ ก็เพื่อตอบรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล และมุ่งพัฒนาประเทศไทยให้เป็นดิจิทัลฮับแห่งอาเซียนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลถือเป็นปัจจัยหลักที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ การจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก หากผู้สอนและผู้เรียนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว จะสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นคนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 และยังจะสามารถพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุดหน้า สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ และหวังว่าโครงการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตด้านดิจิทัลและเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ให้แก่ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในด้านทักษะดิจิทัลให้กับประเทศไทยอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป
.