สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) ว่ากระทรวงสาธารณสุขดีอาร์คองโก รายงานจำนวนผู้ป่วยสะสมจากโรคฝีดาษลิง หรือ เอ็มพ็อกซ์ อยู่ที่มากกว่า 16,700 คน และเสียชีวิตแล้วมากกว่า 570 ราย นับตั้งแต่ต้นปีนี้ เป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การแพร่ระบาดพบในทั้ง 26 จังหวัดของประเทศ ซึ่งมีประชากรรวมกันราว 100 ล้านคน ถือเป็นสถานการณ์ที่ยังคงวิกฤติและฉุกเฉิน


ทั้งนี้ รัฐบาลดีอาร์คองโกวางแผนฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน 4 ล้านคนในปีนี้ จากจำนวนดังกล่าวราว 3.5 ล้านคน จะเป็นเด็ก โดยหน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันวางแผนเรื่องการฉีดวัคซีนไว้หมดแล้ว ตอนนี้รอเพียงการได้รับวัคซีนลอตแรกเท่านั้น ซึ่งมีรายงานว่า สหรัฐและญี่ปุ่นจะร่วมบริจาค


ขณะที่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ซึ่งประกาศให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรียกร้องการยกระดับความร่วมมือควบคุมโรคแบบข้ามพรมแดน เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาด โดยเฉพาะจากกลุ่มเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “เคลด 1บี” ซึ่งพบครั้งแรกในดีอาร์คองโก เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว

อนึ่ง เชื้อเคลด 1 กลายพันธุ์มาจากกลุ่มสายพันธุ์ที่ 1 หรือเคลด 1 ซึ่งมีความรุนแรงระดับสูงมากกว่ากลุ่มสายพันธุ์ที่ 2 หรือเคลด 2 และมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10%.

เครดิตภาพ : AFP