สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวถึงปฏิบัติการทางทหาร รุกข้ามแดนไปที่ภูมิภาคเคิร์สก์ ในภาคตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งเปิดฉากเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่า “กำลังบรรลุเป้าหมาย” ซึ่งรวมถึงการจัดตั้ง “แนวกันชน” บนดินแดนของรัสเซีย เพื่อป้องกันไม่ให้พลเมืองยูเครนตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีข้ามพรมแดน ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน เซเลนสกีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนในรัฐบาลเคียฟ และกองทัพยูเครน เน้นย้ำว่า อีกหนึ่งเป้าหมายปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ คือการกดดันให้รัฐบาลมอสโกกลับมาเจรจา “บนเงื่อนไขที่เท่าเทียมกัน” แต่ยอมรับว่า กองทัพยูเครนยังคง “เผชิญกับอุปสรรค” ในสมรภูมิที่ภูมิภาคโดเนตสก์ ทางตะวันออกของประเทศ
ด้านนายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียและยูเครน “ไม่อยู่ในสถานะเหมาะสมที่จะเจรจากัน” เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในภูมิภาคเคิร์สก์ หลังก่อนหน้านั้น กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ ปฏิเสธรายงานของเดอะ วอชิงตัน โพสต์ ว่ารัสเซียและยูเครนจะเจรจากันโดยมีกาตาร์เป็นคนกลาง แต่แหล่งข่าวของรัฐบาลเคียฟยืนยัน ว่าการหารือจะเกิดขึ้นผ่านระบบวิดีโอคอล ในวันที่ 22 ส.ค. นี้.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES