สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซันดากัน ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ว่านายโจฮารี อับดุล กานี รมว.การเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์ของมาเลเซีย ประกาศแผนการอนุรักษ์ฉบับใหม่ ซึ่งอนุญาตให้บริษัทที่นำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซีย สามารถรับลิงอุรังอุตังมาเลี้ยงได้ แต่จะไม่สามารถนำออกจากประเทศได้

ทั้งนี้ กานีให้คำมั่นที่จะยุติการตัดไม้ทำลายป่าในมาเลเซีย โดยกล่าวว่า พื้นที่ป่าของประเทศต้องคงอยู่ที่ร้อยละ 54 และจะไม่ลดลงต่ำกว่าร้อยละ 50 เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา กานีเสนอแผนส่งลิงอุรังอุตังไปต่างประเทศ เพื่อบรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์จากการผลิตน้ำมันปาล์ม ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า

แผนดังกล่าวทำให้กลุ่มอนุรักษ์คัดค้าน เนื่องจากเกรงว่าลิงอุรังอุตังซึ่งใกล้สูญพันธุ์จะได้รับผลกระทบ “สัตว์ไม่สามารถออกจากแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติได้ เราต้องเก็บมันไว้ที่นี่ แล้วเราจะพบปะกับประเทศหรือผู้ซื้อน้ำมันปาล์ม หากพวกเขาต้องการทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าป่าจะได้รับการดูแลและอนุรักษ์ไว้ตลอดไป” กานีกล่าว

องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ) ระบุว่า ประชากรอุรังอุตัง ซึ่งชื่อในภาษามาเลย์แปลว่า “มนุษย์แห่งป่า” มีจำนวนน้อยกว่า 105,000 ตัวบนเกาะบอร์เนียว ขณะที่โครงการ “การทูตอุรังอุตัง” เปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา หลังสหภาพยุโรป (อียู) บังคับใช้กฎหมาย การห้ามนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่า เมื่อปี 2566 ซึ่งมาเลเซียประณามกฎหมายดังกล่าวว่า “เลือกปฏิบัติ”

กานีกล่าวว่า เงินที่ระดมได้จากบริษัทที่รับอุปการะลิงอุรังอุตังจะถูกแจกจ่ายให้กับองค์กรไม่แสวงผลกำไร และรัฐบาลรัฐซาบาห์ เพื่อภารกิจอนุรักษ์พื้นที่ป่า ซึ่งลิงอุรังอุตังอาศัยอยู่ และติดตามความปลอดภัยและสภาพของสัตว์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุถึงค่าใช้จ่ายในการรับเลี้ยงพวกมัน

ด้านนายมาร์ก อันเครนาซ ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ องค์กรฮูทัน แสดงความหวังว่า แผนดังกล่าวจะสามารถระดมทุนสำหรับงานอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัย เช่น การสร้างทางเดินระหว่างป่าที่แยกเป็นส่วน ๆ ซึ่งเคยมีขนาดเล็กเกินกว่าจะรองรับประชากรสัตว์ป่าได้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES