เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ส.ค. 67 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ระดับแม่น้ำเพชรบุรี พร้อมตรวจเช็กสภาพเครื่องจักรและรถปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดเพชรบุรี โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดี ปภ. นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมติดตามลงพื้นที่

นายอนุทิน พร้อมคณะ ได้รับฟังการรายงานสถานการณ์ระดับแม่น้ำเพชรบุรี จาก นายวิรัช เพ็ญจันทร์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี จากนั้นได้ชมสาธิตการกู้ภัยช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัย การใช้เครื่องมือกู้ภัย เครื่องผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เตรียมความพร้อมสำหรับการกู้ภัย เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในอุปกรณ์กู้ภัยและการช่วยเหลือจากทาง ปภ.จังหวัด

นายอนุทิน กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นฤดูน้ำหลาก และ จ.เพชรบุรี มีแม่น้ำเพชรบุรีไหลผ่านในพื้นที่ อ.เมือง และหลายอำเภอ ซึ่งถ้าหากเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ริมตลิ่ง หรือบริเวณริมแม่น้ำอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เฝ้าระวัง ทุกส่วนราชการโดยเฉพาะ ปภ.จังหวัดเพชรบุรี ต้องมีการเตรียมพร้อม หมั่นตรวจเช็กสภาพอุปกรณ์ เครื่องจักร และกำลังคนให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อที่จะสามารถออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหากเกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้น

“ผมได้เน้นย้ำให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และ ปภ.จังหวัดเพชรบุรี เร่งดำเนินการตั้งคณะทำงานด้านการติดตามสถานการณ์น้ำ ด้านการบริหารจัดการน้ำ และด้านการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนเชิงรุกในทุกพื้นที่เอาไว้ เพื่อให้มีความพร้อมสามารถออกปฏิบัติการอำนวยความสะดวกหากเกิดกรณีฝนตกหนักได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึงได้สั่งการให้ผู้นำในพื้นที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร และประชาชนจิตอาสา ระดมสรรพกำลังร่วมกันเฝ้าระวังน้ำท่วม ทำความสะอาดกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ โดยทุกด้านทั้งข้อมูลน้ำและการช่วยเหลือประชาชน ต้องมีความพร้อม 24 ชั่วโมง” นายอนุทิน กล่าว.