สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ว่า ยูนุส นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2549 เดินทางกลับจากยุโรป เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลังบรรดาผู้นำกลุ่มนักศึกษาก่อการประท้วงขับไล่นายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา และขอให้เขาผลักดันการปฏิรูปประชาธิปไตย
ทั้งนี้ ยูนุสกำหนดลำดับความสำคัญต่อหน้าบรรดานักการทูต และตัวแทนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะสานต่อนโยบายใหญ่สุด 2 นโยบาย ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับรัฐบาลเฉพาะกาลของเขา
“รัฐบาลของเราจะยังสนับสนุนชาวโรฮีนจามากกว่า 1 ล้านคน ที่ลี้ภัยอยู่ในบังกลาเทศต่อไป และพวกเราต้องการความพยายามอย่างต่อเนื่องจากประชาคมระหว่างประเทศ ในการดำเนินการด้านมนุษยธรรมสำหรับชาวโรฮีนจา และส่งตัวพวกเขากลับเมียนมาอย่างปลอดภัย, มีศักดิ์ศรี และมีสิทธิอย่างเต็มที่” ยูนุส กล่าวเพิ่มเติม
ยิ่งไปกว่านั้น ยูนุสกล่าวว่า รัฐบาลชั่วคราวจะสนับสนุนอุตสาหกรรมเสื้อผ้าของบังกลาเทศเช่นกัน หลังความไม่สงบและการประท้วงครั้งใหญ่นานสัปดาห์ ทำให้อุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นภาคส่วนเสาหลักของประเทศ เกิดการชะงักงัน เนื่องจากซัพพลายเออร์หลายราย เปลี่ยนคำสั่งซื้อเป็นประเทศอื่น
“เราจะไม่ทนต่อพยายามใด ๆ ในการทำลายห่วงโซ่อุปทานเสื้อผ้าระดับโลก ที่มีพวกเราเป็นผู้เล่นหลัก” ยูนุส กล่าว โดยโรงงานเสื้อผ้า 3,500 แห่งของบังกลาเทศ คิดเป็นประมาณ 85% ของมูลค่าการส่งออกในแต่ละปี ซึ่งอยู่ที่ 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านล้านบาท)
นอกเหนือจากประเด็นชาวโรฮีนจาและธุรกิจเสื้อผ้า ยูนุสยังให้คำมั่นอีกครั้งว่ าจะจัดการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ทันทีที่รัฐบาลชั่วคราวสามารถดำเนินการปฏิรูปครั้งสำคัญในคณะกรรมการการเลือกตั้ง, ระบบตุลาการ, การบริหารพลเรือน, กองกำลังความมั่นคง และสื่อมวลชน ได้สำเร็จ.
เครดิตภาพ : AFP