นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือเอสไอเอส  เปิดเผยว่า บริษัท ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท ซีสแต็ค (ZStack) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวติ้งที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว  โดย      เอสไอเอสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย บริษัทฯจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซีสแต็ค ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทฯที่มีกว่า 10,000 ราย   พร้อมกับสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาด ด้วยการจัดอบรมและสัมมนาเพื่อให้ความรู้ และการบริการที่ดีสู่ลูกค้า

“เอสไอเอส เป็นผู้นำด้านธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกเกือบ 200 ราย ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย บริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์อยู่ทั่วประเทศทั้งที่เป็นร้านค้าปลีก บริษัทผู้ค้าที่จำหน่ายเข้าภาคธุรกิจและหน่วยงานราชการ ผู้รับวางระบบ  และผู้ผลิตคอมพิวเตอร์    เอสไอเอส จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับซีสแต็ค (ZStack)  เติบโตในประเทศไทยได้รวดเร็วอย่างแน่นอน”

นายสมชัย กล่าวต่อว่า  ซีสแต็ค เป็นผลิตภัณฑ์คลาวด์ ที่มีความโดดเด่นด้านการใช้งานง่ายในราคาที่เข้าถึงได้  พร้อมทั้งสามารถพัฒนาโซลูชันที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า โดยให้ความสำคัญกับลักษณะเฉพาะและความต้องการของลูกค้าในตลาดประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ภาครัฐ โทรคมนาคม การเงิน การขนส่ง พลังงาน การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการผลิต  ทั้งนี้เอสไอเอสและซีสแต็คมีเป้าหมายร่วมกันที่จะสนับสนุนกลยุทธ์ด้านดิจิทัลของประเทศไทยด้วยการจัดหาซอฟต์แวร์คลาวด์ คอมพิวติ้งระดับองค์กรที่จำเป็นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล สังคมดิจิทัล และรัฐบาลดิจิทัล

สำหรับแนวโน้มตลาดไอทีในประเทศไทย จากกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่อ่อนตัวลงจากภาวะเศษฐกิจชะลอตัวและภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น เมื่อรวมกับการใช้จ่ายภาครัฐที่ล่าช้า ทำให้สินค้าไอทีสำหรับกลุ่มผู้บริโภค และการใช้จ่ายภาครัฐด้านไอทีหดตัวลงในครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม จากการอนุมัติงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาล คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายให้ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง    สำหรับตลาดคลาวด์ คอมพิวติ้งในประเทศไทย เป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะถดถอยก็ตาม สังเกตได้จากการลงทุนด้านดาต้า เซ็นเตอร์ของบริษัท ชั้นนำระดับโลกด้านไอทีในประเทศไทย

ด้านนายแฟรงค์ จาง   ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีสแต็ค   กล่าวว่า   การเป็นพันธมิตรกับเอสไอเอส  ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการขยายตลาดในประเทศไทย เพราะเอสไอเอส มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งและมีบุลคลากรที่เชี่ยวชาญ   ส่วนซีสแต็ค เป็นแพลตฟอร์ม คลาวด์ คอมพิวติ้งเชิงพาณิชย์ที่โดดเด่นด้านความสะดวกในการใช้งานและความน่าเชื่อถือ  ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันที่ใช้งานง่ายและปรับใช้ได้อย่างรวดเร็ว     เราประสบความสำเร็จในการนำเสนอเทคโนโลยี  คลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่ล้ำสมัยให้กับผู้ใช้ระดับองค์กรมากกว่า 3,500 ราย จากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ภายใต้แผนการตลาดโลก 1.0 (Global Market Plan 1.0) และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรม

สำหรับประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สำคัญเชิงเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในตลาดดิจิทัลที่มีแนวโน้มเติบโตเร็วที่สุดในอนาคต บริษัท การ์ทเนอร์ ได้รายงานว่าประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่สูงถึง 80% และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือมากกว่า 50 ล้านราย อีกทั้งยังมีอัตราการเติบโตของตลาดคลาวด์ คอมพิวติ้งอยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งแซงหน้ายุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายด้านไอทีของไทยจะเกิน 1 ล้านล้านบาทภายในปี 2567 โดยค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15.9%  คาดว่าภายในปี 2570 เศรษฐกิจดิจิทัลจะมีส่วนสนับสนุนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทยถึง 25% และภายในปี 2573 คาดว่า ส่วนสนับสนุนนี้จะเพิ่มเป็น 30%  พร้อมทั้งคาดว่าภายในปี 2568  ขนาดตลาดคลาวด์ในประเทศไทยจะมีมูลค่าถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น 23.4%