สื่อต่างประเทศสำรวจตลาดราคาเสื้อเกรดแฟนบอลของทีมในพรีเมียร์ลีกพบกว่า ระหว่าง 5 ปี บางสโมสรราคาเพิ่มขึ้นถึง 56% โดยครึ่งหนึ่งของ 20 สโมสรตั้งราคาขายเสื้อสำหรับผู้ใหญ่ไว้ 80 ปอนด์ (ราว 3,600 บาท) หรือมากกว่า

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ปรับราคามากสุดจากที่เคยขายราว 48 ปอนด์ (ราว 2,100 บาท) เมื่อปี 2019 แต่ปัจจุบันขาย 75 ปอนด์ (ราว 3,300 บาท) เพิ่มขึ้น 56% รองลงมาคือ แอสตัน วิลลา ที่เคยขายราว 55 ปอนด์ (ราว 2,500 บาท) เมื่อปี 2019 แต่ปัจจุบันขาย 80 ปอนด์ (ราว 3,600 บาท) เพิ่มขึ้น 45%

ดร.ปีเตอร์ โรห์ลมันน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดกีฬาชาวเยอรมัน ระบุว่า ย้อนไปสิบปีก่อนราคาเสื้อแข่งเกรดแฟนบอลของพรีเมียร์ลีกต่ำที่สุดในยุโรป แต่ความต้องการจากแฟนเติบโตขึ้นเป็นพิเศษ และตอนนี้กลายเป็นสินค้ายอดนิยมของแต่ละสโมสร

ด้าน เจน ฮอว์กส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้บริโภค ชี้ว่าราคาดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล ราคาเสื้อดูเหมือนเพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่โควิด ทั้งที่ต้นทุนการผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก การกำหนดราคาที่แฟนไม่สามารถเอื้อมถึงในช่วงวิกฤติค่าครองชีพนั้นไม่ยุติธรรมและอาจส่งผลเสียต่อสโมสรในระยะยาว”

ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ถูกระบุว่าขายเสื้อแพงสุด 85 ปอนด์ (ราว 3,800 บาท) สูสีกับ เชลซี ที่ตั้งราคาขาย 84.99 ปอนด์ ขณะที่หลายทีมตั้งราคาขาย 80 ปอนด์ เช่น วิลลา, ฟูแลม, อาร์เซนอล, แมนฯ ซิตี, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิล ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด ช่วยแฟนประหยัดด้วยการออกเสื้อใหม่ 2 ปีครั้ง ตั้งราคาขาย 60 ปอนด์ (ราว 2,700 บาท) ส่วน เซาแธมป์ตัน มีการเปลี่ยนแปลงราคาน้อยสุดจากที่เคยขาย 55 ปอนด์ (ราว 2,500 บาท) เมื่อปี 2019 ตอนนี้ขาย 60 ปอนด์ (ราว 2,700 บาท) ขึ้นมาแค่ 9%